นนทบุรี-“ถั่วแระ เชิญยิ้ม”เก็บอัฐิพ่อแม่และญาติๆพร้อมรื้อถอนศาลาที่สร้างให้พ่อนำไปถวายวัดต่างจังหวัดเพื่อทำบุญ

ภาพ-ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ

            เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2566 ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายศรจุธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระเชิญยิ้มพร้อมญาติๆทำบุญกระดูกให้พ่อแม่ พร้อมเจาะที่เก็บอัฐิพ่อแม่และญาติรวม 18 อัฐิ เพื่อนำอัฐินำไปลอยอังคารและรื้อถอนศาลาที่สร้างเอาใว้ให้พ่อแม่ออกไปเพื่อนำไปถวายที่วัดต่างจังหวัด
             นาย ศรสุทธา กลั่นมาลี หรือ ถั่วแระ เชิญยิ้ม กล่าวว่า ในทุกๆปีตนและญาติๆก็จะมีกิจกรรมเป็นที่นัดพบที่เป็นศูนย์รวมใจสำหรับญาติที่วัดชลประทาน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายภรรยาหรือว่าจะเป็นฝ่ายสามี หรือจะเป็นทางเขย หรือว่าสะไภ้ ก็จะเอาบรรพบุรษคือพ่อแม่ โดยเฉพาะวันนี้ซึ่งเป็นวันสูญสิ้นพ่อเดือน อันนี้เป็นฝ่ายภรรยาและแม่เข็ม คำสเนาะ ซึ่งแม่เข็มเพิ่งเสียไปได้ 50วันแล้ว ก็จะมาทำบุญที่นี้ ซึ่งตนก็เหมือนกัน คุณพ่อเป้า กลั่นมาลี คุณแม่ อัมพร กลั่นมาลี และ คุณพี่ ศักดา กลั่นมาลี และก็ยังมีญาติๆที่มาเก็บอัฐิไว้ที่กำแพงนี้รวม 18 อัฐิ แล้วก็จองที่ว่างเอาไว้อีกเพื่อหวังว่าถ้าใครเสียชีวิตไปจะได้นำอัฐิมาเก็บเอาใว้รวมกันและจ่ายตังไปแล้ว ซึ่งตนคิดว่าอนาคตไม่มีใครหนีรอดเรื่อง การเกิดแก่เจ็บตาย เช่าเก็บเอาไว้ซึ่งตนคิดว่าทุกคนว่าจะรวมกันแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันเวลาของแต่ละท่านไม่เหมือนกันซึ่่งในแต่ละ ปีอย่างน้อยตนและญาติๆมาที่วัดชลประทานปีละ 4-5 ครั้งซึ่งตนคิดว่าเป็นศูนย์รวมใจไม่ว่าวันเกิดก็มาเพราะฉะนั้นวันนี้ก็มาทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศล แก่ผู้วายชนม์ ไม่ว่าจะเป็น บิดา มารดา หรือ ผู้มีพระคุณทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วเราก็จะมาร่วมบุญกันทุกครั้งและทุกปี
            ตนก็เข้าใจว่าเจ้าอาวาสมีวิสัยทัศน์เป็นแบบนี้เรื่องราวของสถานกรรมฐานก็นาน ตั้งแต่หลวงพ่อปัญญาสร้างมา แต่ว่าการบูรณะหรือว่าตามวิสัยทัศน์เพื่อให้ภูมิประเทศ หรือบริเวณวัดมันดีขึ้นตนเห็นด้วยไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่ว่าถูกใจหรือถูกต้อง หรือ ถูกต้องหรือไม่ถูกใจ ถ้าค่อยๆให้ญาติๆทำใจบ้าง มันก็คงจะไม่เกิดปัญหา แต่ว่ามันเร็วไปไหมจนที่ทุกคนยังทำใจไม่ได้ แล้วก็อีกอย่าง ตนคิดว่าถ้าท่านทำแบบนี้มันก็เป็นเรื่องราวที่ดีเพราะท่านเป็นเจ้าอาวาสท่านสามารถที่จะตัดสินใจได้แต่เพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นคนอื่นก็ต้องฟังท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนก็เป็นชาวพุทธคนนึ่ง ก็ต้องอาศัยวัดวาอารามที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะฉะนั้นท่านทำก็ถูกเราทำก็ถูกต่างคนต่างมีความคิดไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอะไรที่มันจะเกิดขึ้นก็ขอให้ช่วยกันคิดช่วยกันแก้จะดีที่สุด
            วันนี้พอเสร็จพิธีแล้วก็จะตัดป้ายชื่อที่เก็บอัฐิทั้งหมดที่เป็นญาติๆ และจะนำไปลอยอังคารเพราะว่าคิดกันแล้ว บอกญาติๆและพี่ๆทุกคน คิดคำนึ่งว่าตอนนี้ทำให้พ่อแม่ แต่ลูกหลานไม่รู้จะทำให้เรารึป่าว เก็บไว้ปัญหาที่มันจะเกิดตามขึ้นมาใครจะดูแล ตนก็ถือในเรื่องพุทธ พอสมควรอย่าเก็บอะไรไว้การเกิดแก่เจ็บตาย มันเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้เสมอ คิดว่าควรจะเอาไปลอยอังคารซะให้จบ แต่ถ้าอยากทำบุญทำกันอยู่แล้วทุกปี ก็เอาชื่อท่านมา หรือเอาอะไรก็แล้วแต่รูปมาวาง แล้วก็อุทิศบุญกุศลให้อย่างทุกปี แต่เราจะไปอยู่ตรงวัดไหน จะไปทำบุญที่วัดไหนปัญหาแค่นี้เองไม่เป็นไร

             ส่วนศาลาคงไม่ให้มันย่อยสลายกลายเป็นเถ้าธุลีในการทุบหรือทำลาย ก็ได้จ้างช่างมาแล้ว มารื้อศาลาเพื่อเอาไปให้วัดที่ต่างจังหวัด คิดว่าจะตัดฐานแยกเพื่อไปประกอบอีกทีก็เสียตังน้อยหน่อย ดีกว่าไปทำลายอย่างเดียว ก็ไม่อยากให้หลังคาพังเพราะเก่ามากแล้ว สร้างตั้งแต่ พ.ศ.2540 คุณพ่อเสียเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. พ.ศ. 40 ก็ใช้ศาลานี้กันมาตลอด คนอื่นมาก็ยังมานั่งใช้ศาลานี้ เพราะว่าเป็นกัลยาณมิตรทั้งนั้นแต่ก็ไม่เป็นไร ก็ไม่ได้มีอะไรในใจก็อยากบอกกล่าวกัลยาณมิตรหรือว่าพ่อแม่ญาติสนิทมิตรสหายที่มารวมกันอยู่ที่นี้ไม่ว่าจะเป็นของเขย ไม่ว่าจะเป็นของสะไภ้ ก็บอกกันด้วย จุดทูปว่าเราจะต้องย้ายบ้านกันแล้วนะพ่อ แม่ คือเราทำให้หมดแล้ว แต่นี้เราเก็บไว้เพื่อจรรโลงใจว่าพ่อกับแม่เรายังอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไรถือว่าพระพุทธธาตุไม่ยอมให้เก็บอัฐิหลวงตาบัวก็ไม่ยอมให้ใครเก็บอะไร เพราะฉะนั้นลอยอังคารให้หมดไม่ว่าจะเป็นเถ้า หรือผงธุลี