ประจวบคีรีขันธ์-อาถรรพ์หรือบังเอิญ หนุ่มใหญ่หายออกจากบ้านนาน4วัน พบอีกทีผูกคอดับในบ้านร้างที่มีคนตายมาก่อน
ภาพ/ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา
อาถรรพ์หรือบังเอิญ หนุ่มใหญ่หายออกจากบ้านนาน4วัน พบอีกทีผูกคอดับในบ้านร้างที่มีคนตายมาก่อน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 มีนาคม 2566 พ.ต.ท.สำราญ งามแฉ่ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ยางชุม รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบมีผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านร้างแห่งหนึ่ง ไม่มีเลขที่ บ้านโรงกาแฟ ม.3 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกุยบุรี ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบฯ ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกุยบุรี และกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ชั้นเดียว ลักษณะเป็นบ้านรกร้างไม่มีผู้อยู่อาศัย รอบๆบ้านมีกลิ่นเหม็นรุนแรง มีแมลงวันบินรอบๆ ตรวจสอบพบว่าบ้านมาการล็อคกลอนจากข้างใน ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้กู้ภัยทำการงัดประตูบ้านออกโดยความยินยอมของเจ้าของบ้าน เมื่อเปิดเข้าไปหลายคนถึงกับต้อแงวผงะ เมื่อพบว่าที่ผนังบ้าน พบร่างชายคนหนึ่ง เสียชีวิตในลักษณะมีเชือกผูกคอแขวนอยู่กับๆไม้ใต้หลังคาบ้าน ที่ร่างเน่าอืดจนมีสีดำคล้ำ ทั้งแมลงวันและหนอนเต็มร่าง ทางกู้ภัยต้องจุดธูปเพื่อให้ควันธูปไล่กลิ่นเหม็น แพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วันแล้ว โดยทราบชื่อต่อมาว่า นายสุพจน์ หรือชาย แซ่ดั่น อายุ 43 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ ม.1 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า นายสุพจน์ มักเสพยาเสพติดจนประสาทหลอนอยู่บ่อยครั้งจนชาวบ้านต้องแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ อีกทั้ง มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายสุพจน์ยังมีหมายจับเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด และไม่ผ่านการบำบัด จำนวน 2 หมาย คาดว่า นายสุพจน์อาจเกิดอาการเครียด แอบเข้าบ้านร้างก่อเหตุผูกคอตัวเหตุจนเสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้มีรายงนว่า เมื่อ วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 เจ้าของบ้านหลังนี้ได้เสียชีวิตลงในลักษณะนอนเปลือย บนเตียง ทีวีเปิดหนังโป๊คาอยู่ หลังจากนั้น ทางญาติก็ได้ปล่อยบ้านทิ้งร้างเอาไว้ โดยไม่มีใครกล้าเข้าไปอีก จนเกือบครบ 2 ปี ก็มามีเหตุนายสุพจน์ผู้คอเสียชีวิตขึ้นอีก โดยทางญาติของเจ้าของบ้านกล่าวว่า ต่อไปจากนี้ อาจต้องรื้อบ้านหลังนี้ออก เนื่องจาก คงไม่มีใครกล้าเข้ามาอยู่อีกแล้ว
ในส่วนของผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ซึ่งทางญาติก็ไม่ติดใจสงสัยในสาเหตุการตาย จึงได้ให้กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งให้ญาตินำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป