อุทัยธานี-จัดซ้อมแผนรับอุบัติเหตุหมู่รับเทศกาลสงกรานต์

ภาพ-ข่าว:วราภรณ์ หนูกลัด

            โรงพยาบาลทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับตำรวจ สภ.ทัพทัน มูลนิธิกู้ภัย หน่วยกู้ภัย และภาคีเครื่องข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดซ้อมแผนรับอุบัติเหตุหมู่รับเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อมรับสถานการณ์ และปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่การซ้อมครั้งนี้นักแสดงเล่นกันอย่างสมจริง อีกด้วย
               ที่จังหวัดอุทัยธานี นายแพทย์วศินโพธิ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ได้จัดแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของโรงพยาบาล จัดซ้อมแผนรับอุบัติเหตุหมู่ เทศกาลสงกรานต์ ขึ้นที่ถนนสายทัพทัน – ตลุกดู่ บริเวณหลัก กม.ที่ 5 บ้านตลุกหมู หมูที่ 4 ตำบลหนองกลางดง อำเภอทัพทัน โดยจำลองเหตุการณ์เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนประสานงากับรถกระบะ ที่สวนทางกันมาและบรรทุกคนอยู่บนกระของทั้ง 2 คัน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 คน มีผู้เสียชีวิตเป็นเยาวชนจำนวน 2 คน มีหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม ประกอบด้วย ตำรวจ สภ.ทัพทัน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี ภาคีเครือข่าย หน่วยกู้ชีพองค์กรส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอทัพทัน และเจ้าหน้าจากหน่วยงานอื่นเข้าร่วมกว่า 80 คน
               โดยการซ้อมแผนได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุเสมือนจริงทุกประการในจุดเกิดเหตุ มีการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างถูกวิธีและส่งต่อถึงโรงพยาบาลเพื่อรักษาชีวิตสำหรับผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นอกจากนี้ยังมีการซักซ้อมเมื่อคู่กรณ๊ทั้งฝ่ายไม่พอใจซึ่งต่างโทษกันว่าเป็นต้นเหตุและได้มีการส่งเสียงด่าจนถึงขั้นมีการทำร้ายกันอย่างรุนแรงจนต้องขอกำลังตำรวจมาระงับเหตุ
               ทั้งนี้ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน การเกิดอุบัติเหตุบางครั้งมีผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประสบเหตุการณ์สับสน และเกิดความวุ่นวาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลผู้ประสบภัยจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมเพื่อรองรับอุบัติเหตุหมู่ และสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการซ้อมแผนในครั้งนี้เป็นการรองรับอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงอันใกล้นี้ จะทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง รวมทั้งเครือข่ายผู้ประสบภัยทั้งภาครัฐ และเอกชนได้มีความพร้อมในการรับสถานการณ์ มีการทำงานแบบบูรณาการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ตระหนัก เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง มีความพร้อมในการปฏิบัติงานทั้งใน และนอกสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกด้วย