อุดรธานี-สืบภาค4 บุกรวบคาครีมพอกหน้า “เจ๊บัว”กับลูกสาว ตุ๋นชาวบ้านไปทำงานแคนาดา
ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวอาชญากรรมตำรสจภูธรภาค4
สืบภาค 4 โชว์11หมายจับ บุกรวบเจ๊บัว คาครีมพอกหน้า ในบ้านพักกาฬสินธุ์เป็นอดีตภรรยานายตำรวจดังแถวอีสานเหนือ ตั้งตัวเป็นนายหน้าจัดหางาน มีลูกสาวเป็นผู้ช่วยทำบัญชี อ้างมีญาติเป็นนายจ้างทำฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่ในประเทศแคนาดา ต้องการแรงงานไทย เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินคนละ 1.7- 2 แสนบาท รวมเข้าแจ้งความแล้วกว่า50รายรวมค่าเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
วันที่ 8 เม.ย.66 ที่ กก.สืบสวน1 บก.สส.ภ.4 อุดรธานี พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.ธนกร พัฒนนันแก้ว ผกก.สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ,พ.ต.ท.สมภพ กองสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 ,พ.ต.ท.เอกวิทย์ บาคาล รอง ผกก.ฯ
พ.ต.ท.สืบวงค์ สุดหนองบัว สว.ฯ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับฐาน“ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ฯ
ผู้ต้องหา 2 คน รวม 11 หมายจับ คือ 1.นางจงกลพรรณ ขอสงวนนามสกุล อายุ 54 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.137/2563 ลงวันที่ 30 ก.ย. 63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง, ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” 2.น.ส.ร้อยแก้ว ขอสงวนนามสกุล อายุ 28 ปี ลูกสาวนางจงกลพรรณฯตามหมายจับของศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.138/2563 ลงวันที่ 30 ก.ย. 63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง, ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือน มี.ค.64 ตำรวจ กก.1 บก.ปพ.จับกุม นางจงกลพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.192/2563 ลงวันที่ 2 ธ.ค.63 ข้อหาร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” นอกจากนี้ยังมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันอีก 5 หมายจับในบ้านพัก ต.บัวขาว อ.กุฉินารายน์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 63 นางจงกลพรรณ ฯหลอกชาวบ้าน จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่า สามารถส่งคนไปทำงานการเกษตรที่ประเทศแคนาดา เช่น ทำฟาร์มผัก สวนดอกไม้และผลไม้ รายได้ดีตกเดือนละ 5 หมื่นบาท แต่ต้องจ่ายค่าเอกสาร ค่าเครื่องบิน รายละ 173,500 บาท และค่าประกันโควิดอีกรายละ 1-2หมื่นบาท เมื่อถึงกำหนดเดินทางกลับไม่ได้ไปตามที่ตกลง จึงรวมตัวกันไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บรบือ และพบว่าผู้ต้องหามีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากถึง 50 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 กล่าวว่า หลังจากนั้น มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวชาว อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ถูกหลอกสูญไปกว่า 2 แสนบาท รวมทั้งคนอื่นๆอีก 11 ราย ในจ.บึงกาฬ พะเยา น่าน ลำปางและอีกหลายจังหวัด ได้ทยอยเข้าแจ้งความจับสองแม่ลูกจอมต้มตุ๋นรายนี้ ล่าสุด ตำรวจกก.สืบสวน บก.สส.ภ.4 ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ ค.79/2566 ลง ตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทราบว่า นางจงกลพรรณฯและลูกสาวย้อนกลับมาซ่อนตัวเงียบ ขณะเข้าจับกุมยังใช้ครีมพอกหน้าจนจำไม่ได้ และพบว่านอกจากหมายจับ จ.หนองคายแล้วยังมี หมายจับอีกรวม 5 หมายจับคือ2. หมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 50/2564 ลง 20 เม.ย. 64 3. หมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่ 20/2564 ลง 29 ม.ค. 64 4.หมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ 3/2565 ลง 10 ม.ค. 65 และ5.หมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 105/2564 ลง 18 ต.ค. 64
ส่วน น.ส.ร้อยแก้ว ลูกสาว ถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.138/2563 และพ่วงอีก รวม 6 หมายจับ มี หมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 51/2564 ลง 20 เม.ย. 64,หมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่ 21/2564 ลง 29 ม.ค. 64,หมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ 4/2565 ลง 10 ม.ค. 65 ,หมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 106/2564 ลง 18 ต.ค. 64 และหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 91/2564 ลง 20 พ.ค. 64
พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีชื่อเรียกในกลุ่มต้มตุ๋นแรงงานว่าเจ๊บัว เป็นอดีตภรรยานายตำรวจ แถวอีสานเหนือ ที่เกษียณิายุราชการไปแล้ว รู้วิธีหลบหนีการจับกุมไปเรื่อยๆ โดยเหยื่อที่หลงเชื่อก็ถูกหลอกว่า เจ๊บัวสนิมสนมกับผู้ใหญ่คนมีชื่อเสียง สามารถส่งคนงานไปประเทศแคนาดา ได้จึงหลงเชื่อสูญเงินไปรวมกว่า 50 ล้านบาท จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป