ปราจีนบุรี-“ก้าวไกล”หาเสียงแบบดั้งเดิมเดินเคาะประตูบ้าน-รูปแบบใหม่ แนะนำสื่อสารผ่านโลกโซเชี่ยล

ปราจีนบุรี-“ก้าวไกล”หาเสียงแบบดั้งเดิมเดินเคาะประตูบ้าน-รูปแบบใหม่ แนะนำสื่อสารผ่านโลกโซเชี่ยล

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ/ ณัฐนันท์

              เมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้ 9 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานบรรยากาศในการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ปราจีนบุรี หลังสมัครฯได้หมายเลขผู้สมัครแล้ว พบทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ( ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จ.ปราจีนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1-3 มีผู้สมัคร สส.ทั้ง3เขตเลือกตั้ง รวมจำนวน 29 คน จาก 11 พรรค ) ต่างพากันออกหาเสียงทันที อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งแบบดั้งเดิม คือ การลงพื้นที่พบชาวบ้าน การจัดเวทีปราศรัย การติดตั้งป้ายโปสเตอร์หาเสียง ,การวิ่งรถแห่กระจายเสียง และ แบบสมัยใหม่ ในการสื่อสารการเมืองผ่านโลกโซเชี่ยลมิเดีย
            พบนายสุนทร หรือ เกษตรแหลม คมคาย ผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคก้าวไกล ที่หลังจากเดินทางไปสมัคร สส.พร้อมเพื่อนผู้สมัครในพรรคก้าวไกล ครบทั้ง 3 เขต โดยเดินทางไปด้วยรถ จยย.พ่วงข้าง นั้น หลังจากได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ได้เริ่มวางแผนกับทีมงาน ในการหาเสียงเพื่อสื่อสารทางการเมืองถึงประชาชนทันที

            นายสุนทร กล่าวว่า “ในแนวทาง วิธีการหาเสียงนั้น พรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่ เราไม่มีหัวคะแนน เพราะทำการเมืองแบบใหม่ จะไม่มีฐานคะแนนเป็นผู้กว้างขวาง หรือ ผู้ใหญ่บ้าน – กำนัน ส่วนใหญ่เราจะใช้วิธีเน้นการเดินเข้าหาประชาชน เข้าบ้าน – เคาะประตู พบหน้า – พูดคุย อีกทางหนึ่งคือทำทางโซเชี่ยลมิเดีย ซึ่งมีทั้งเฟชบุ๊ค , เพจ . กรุ๊ปไลน์ , ติ๊กต๊อก จะเล่าให้ฟังว่า เราเคยทำอะไรในการพัฒนามา ในการช่วยชุมชน – ช่วยชาวบ้านเป็นหลัก ในการเข้ามาต่อสู้ อย่างตนเองนั้น ได้ต่อสู้ช่วยชุมชนมายาวนานด้านเกษตรอินทรีย์ , ด้านสิ่งแวดล้อม ได้ทำการสื่อสารสื่อสมัยใหม่ ทั้งเฟสบุ๊ค ติ๊กต๊อก เพจ เล่าเรื่องราวตัวตนของเรา สื่อสารผ่านกลุ่มต่าง ๆ ทั้งคนรุ่นใหม่ – คนสูงอายุที่เล่นสื่อใหม่ เล่าเรื่องแนวคิดต่าง ๆ ที่เราอยากเข้าไปพัฒนาประเทศ รวมถึงปัญหาชุมชนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ในการพัฒนาช่วยแก้ไขปัญหา อย่างเช่น ในปราจีนบุรี ที่ตนเองได้มีการ เข้าไปมีส่วนร่วมจัดเวทีด้านสิ่งแวดล้อม หรือ เป็นผู้แทน- แกนนำชาวบ้านในการกดดัน แก้ไขปัญหาให้มีการนำสารซีเซี่ยม -137 ออกไปจาก จ.ปราจีนบุรีของเรา”นายสุนทร หรือ เกษตรแหลม กล่าว
               โดยในการสื่อสารผ่านสื่อยุคใหม่นั้นพบว่า ผลตอบรับในสื่อค่อนข้างดี เพราะประชาชนเกินครึ่ง มีบัญชีเฟสบุ๊คเกือบทั้งหมด อีกอันที่เป็นเรื่องใหม่ คือเรื่อง ติ๊กต๊อก นั้น ตอนนี้พบมียอดผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น ส่วนการสื่อสารหาเสียงแบบเดิม อาทิ ใช้รถแห่ หรือ ขบวนการเจาะเข้าไปในฐานหัวคะแนน คิดว่ามันมีความจำเป็นน้อยลง แต่ยังคงต้องทำอยู่ เพียงแต่ว่าประสิทธิภาพเรื่องพวกนี้ก็น้อยลงไป ได้ผลไม่ได้มากนัก โดยแบบนั้นอาจสนับสนุนให้คนได้ยินบ้าง แต่ว่า วันนี้คิดว่า ประชาชนสนใจว่าเรากำลังทำอะไร กำลังจะทำอะไรเพื่อเขา คิดว่า ในวันนี้ประชาชนตื่นตัวทางการเมืองค่อนข้างมาก ความชัดเจนในการสื่อสารสู่ประชาชนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักการเมืองยุคนี้
             สำหรับตนเองนั้น สรุปในการหาเสียงตอนนี้ตนเอง มีทั้งการเดินลงตามตลาด แจกแผ่นพับ แนะนำตัวกับชาวบ้าน เดินเข้าไปลงชุมชนตามบ้านคนแนะนำตัว และ สื่อสารผ่านโซเชี่ยลมีเดียด้วย และ ทำงานเชิงประเด็นด้วย แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ด้านต่าง ๆ ด้วย ในพื้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 3 นั้น ประกอบด้วย อำเภอกบินทร์ ทั้ง 14 ตำบล อ.นาดี 2 ตำบล ที่ ต.แก่งดิน และ ต.ทุ่งโพธิ์ และ ในเขตเลือกตั้งต่าง ๆ 1 -3 นั้น พรรคก้าวไกล จ.ปราจีนบุรี ส่งผู้สมัคร สส. ครบทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายไพฑูรย์ นาคหิรัญ อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข จ.ปราจีนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา อดีตวิศวกร และ เขตเลือกตั้งที่ 3 ตนเอง นายสุนทร หรือ เกษตรแหลม คมคาย แกนนำเกษตรอินทรีย์ – แกนนำสิ่งแวดล้อมภาคประชาชน จ.ปราจีนบุรี  ฝากชาว พี่น้องชาว อ.กบินทร์บุรี ก้าวไกลอาสามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย และ ปราจีนบุรีด้วย วันนี้ปราจีนบุรีมีศักยภาพในการพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ ถ้าเลือกพรรคก้าวไกลประเทศไทยและปราจีนบุรีเปลี่ยนแปลงแน่นอน นายสุนทร หรือ เกษตรแหลม กล่าวในที่สุด
               ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม … นายสุนทร คมคาย อายุ 49 ปี ผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีเขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคก้าวไกล เป็นผู้สมัคร สส.หน้าใหม่ แต่ใหม่เฉพาะเวที สส. เท่านั้น ในอดีต นายสุนทร หรือเกษตรแหลม ลุยทำงานพบประชานมาตลอด ในการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ , การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม – ต่อต้านขยะพิษ – ขยะอุตสาหกรรมโรงงาน , การอนุรักษ์ต้นน้ำบางปะกง , การวางโครงสร้างผลักดันช้างป่า เขตเขาอ่างฤาไนจาก จ.ฉะเชิงเทรา (ในเขตป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว, จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง) ที่บุกข้ามฝั่งมาหากินที่ปราจีนฯ และพื้นที่โดยรอบ และล่าสุดในการเป็นแกนนำ กดดันในเวทีภาคประชาชน –แกนนำชาวบ้าน จ.ปราจีนบุรี ไม่เอาสารซีเซียม – 137 เสนอต่อ จ.ปราจีนบุรี และหน่วยงานผู้รับผิดชอบในมาตรการต่าง ๆ อาทิ

              … ให้หลักคิดในการหาทางออกจากวิกฤติ ประกอบด้วย ผู้ก่อมลพิษควรรับผิดชอบความเสียหาย ให้กับผู้ได้รับผลกระทบสุขภาพ เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม เปิดเผยข้อมูลความจริงให้ ปซช.รู้เท่าทัน(ยังมีซีเซี่ยมจำนวน 100 กว่าแท่ง 44 แห่ง อยู่ตรงไหน ) การเฝ้าระวังป้องกันอย่างต่อเนื่องควรปฏิบัติให้เป็นจริง รวมถึงวันข้างหน้าการป้องกันสาธารณะภัยต้องการการมีส่วนร่วมจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล คืนความเชื่อมั่น ซึ่งมี คือ ด้วยมาตรการสื่อสารและประชาสัม พันธ์ข่าวสารเชิงบวก คืนความเชื่อมั่นด้วยการที่ผู้ก่อมลพิษกล่าวยอมรับและพูดความจริง …

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!