นนทบุรี-ร้องทนาย..!!ค่าไฟฟ้าสูงเกินจริง
ภาพ-ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ
สาวใหญ่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในห้างดังร้องทนาย ค่าไฟฟ้าในร้านสูงเกินจริงกว่าเท่าตัวจนต้องนำมิเตอร์วัดไฟฟ้ามาติดเทียบ วันเดียวค่าไฟฟ้าลดกว่าครึ่งห้างปฎิเสธความรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 พ.ค.66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางรัชดา กิติพงษ์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวิศวะซึ่งเปิดขายอยู่บนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายณัฐพล สุกยัง ทนายความเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังเช่าพื้นที่ห้างดังเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว แต่กับพบว่าค่ามิเตอร์วัดไฟฟ้าที่ทางห้างติดตั้งไว้ให้มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างมากกว่าเท่าตัว จนต้องนำมิเตอร์วัดไฟฟ้าของตนเองมาติดเปรียบเทียบจึงทราบว่าค่าวัดไฟฟ้ามีปริมาณห่างกันกว่า 1 เท่า แต่พอแจ้งเรื่องให้ทางห้างสรรพสินค้าทราบกับได้คำตอบว่าทางห้างตรวจสอบแล้วอุปกรณ์วัดไฟฟ้าของห้างปรกติ ปฎิเสธความรับผิดชอบที่เรียกเก็บค่าไฟฟ้าจากร้านของตนมานานกว่า 2 ปีเสียหายร่วมแล้วกว่า 2 แสนบาท จึงมาร้องเรียนให้ทางทนายช่วยเหลือในเรื่องคดีกับทางห้างสรรพสินค้า
นางรัชดา กล่าวว่า ตนมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวิศวะที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เมื่อปี 64 ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจเรื่องค่าไฟฟ้าที่ทางห้างสรรพสินค้าเรียกเก็บเป็นรายเดือนโดยคิดจากมิเตอร์ค่าใช้ไฟฟ้าที่ติดไว้ในร้านเดือนละ 15,000 – 17,000 บาทมาตลอดกระทั่งปี 65 ที่ร้านประสบปัญหาโรคไวรัสโควิด 19 ทำให้ลูกค้ามาใช้บริการน้อยลงทางร้านจึงได้มีการปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เหลือแค่เพียงตู้แช่แข็งอาหาร กับตู้กดเครื่องดื่ม แต่ก็พบว่าค่าไฟยังคงมีค่าใช้ไฟเฉลี่ยเท่าเดิมไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใดกับจะสูงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ตนคิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปรกติจึงได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปกับทางห้างสรรพสินค้าให้ทราบ ทางห้างจึงส่งช่างไฟฟ้าเข้ามาตรวจสอบทางช่างก็บอกว่ามิเตอร์ไฟฟ้า ระบบสายไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ปรกติดีทุกอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด
นางรัชดา กล่าวอีกว่าตอนนั้นตนเครียดมากลูกค้าก็ไม่ค่อยจะมียังมาเจอค่าไฟฟ้าที่แพงอีก จึงได้ไปปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงก็ได้คำแนะนำให้ลองหามิเตอร์วัดไฟฟ้าของตนเองมาติดเทียบเพื่อหาการใช้ไฟฟ้าที่ร้านของตนว่ามีค่าวัดไฟฟ้าถูกต้องหรือไม่ ตนจึงได้ขออนุญาตกับทางห้างสรรพสินค้าเขาก็ยินยอมให้ติดได้แต่ตนต้องออกค่าใช้จ่ายเอง หลังติดได้แค่วันเดียวค่าไฟฟ้าจากเดิมของห้างเฉลี่ยแล้วต่อวันจะอยู่ที่ 90-100 หน่วยต่อวันลดลงเหลือแค่เพียง 37-45 หน่วย ห่างกันถึงครึ่งต่อครึ่ง แล้วเครื่องที่ใช้วัดก็เป็นมิเตอร์วัดไฟฟ้าของทางห้างเองอีกด้วย แต่ก่อนหน้าที่ตนจะนำมิเตอร์วัดไฟฟ้ามาติดตั้งไม่เห็นค่าไฟฟ้าจะลดลงมามากขนาดนี้ ตนจึงแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทางสำนักงานใหญ่ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าวทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้รับคำตอบว่าจะตรวจสอบให้ ก่อนจะให้คำตอบกับตนว่าตรวจสอบแล้วอุปกรณ์วัดค่าไฟฟ้าที่ทางห้างติดตั้งไว้ทำงานดีถูกต้องทุกอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด ส่วนที่พอตนนำมิเตอร์วัดไฟฟ้ามาติดเทียบเคียงแล้วค่าไฟฟ้าลดลงก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรและบ่ายเบี่ยงจะรับผิดชอบค่าไฟฟ้าที่ตนจ่ายเกินไปก่อนหน้านี้จึงตัดสินใจเดินทางมาร้องเรียนกับทนายความให้ช่วยเหลือในเรื่องคดี
ด้านทนายณัฐพล กล่าวว่าหลังจากนี้ต้องมีการตรวจสอบหาสาเหตุว่าทำไมค่าไฟฟ้าของทางร้านจึงมีปริมาณที่สูงขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้ใช้งาน แต่พอทางร้านนำมิเตอร์ของตัวเองมาติดเพื่อเปรียบเทียบจำนวนการใช้ไฟฟ้ากับพบว่าค่าวัดไฟฟ้ามิเตอร์ของทางห้างกับลดลงมาได้ สาเหตุเกิดจากอะไรมิเตอร์ไม่ได้มาตราฐานหรือเปล่า หรือมีใครมาแอบพ่วงใช้ไฟฟ้ากับทางร้านหรือไม่ แต่การตรวจสอบก็จะค่อนข้างยาก ต้องให้ผู้เสียหายไปร้องที่การไฟฟ้าในพื้นที่ให้เข้าไปช่วยตรวจสอบว่ามีการรั่วไหลของไฟฟ้าภายในห้างไหม หม้อแปลงไฟฟ้ามิเตอร์ไฟฟ้าที่ทางห้างใช้ได้มาตราฐานหรือไม่อย่างไร และหากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความผิดของทางห้างก็จะฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายคืนให้กับผู้เสียหายที่ได้จ่ายค่าไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้แล้วต่อไป