อุบลราชธานี-โค้งสุดท้าย “น้องกานต์” เพื่อไทย เขต 7 อุบลฯ เร่งฝีเท้าเต็มสูบ!!
อุบลราชธานี-โค้งสุดท้าย “น้องกานต์” เพื่อไทย เขต 7 อุบลฯ เร่งฝีเท้าเต็มสูบ!!
ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดอุบลราชธานี
การหาเสียงของผู้สมัครส.ส.ได้มาถึงโค้งสุดท้ายกันแล้ว เหลือเวลาอีก 4 วัน ก็จะได้รู้กันว่า ผู้สมัครส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี ทั้ง 11 เขต คนใดจะสมหวัง และผิดหวัง หลังจากแต่ละคน แต่ละพรรค แต่ละเขตเลือกตั้ง ต่างลุยเคาะประตูบ้าน และ เดินเท้าหาเสียงไปตามหมู่บ้านหรือชุมชนต่างๆ แบบหามรุ่งหามค่ำ วันที่ 14 พ.ค.66 ประชาชน จะเป็นผู้ตัดสิน ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานี มีพรรคการเมืองส่งผู้รับสมัครเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 11 เขต รวมทั้งสิ้น 152 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,469,526 คน
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 7 จ.อุบลราชธานี ประกอบไปด้วย อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม อำเภอสิรินธร (ยกเว้นตำบลโนนก่อ) และ อำเภอพิบูลมังสาหาร (เฉพาะตำบลระเว และตำบลทรายมูล) มีผู้สมัคร ส.ส.ทั้งสิ้น จำนวน 16 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น ก็มีนางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ หรือ น้องกานต์ เบอร์ 11 พรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่ ไฟแรง วัย 27 ปี ลูกสาวของนายชูวิทย์ (กุ่ย ) พิทักษ์พรพัลลภ อดีตส.ส.อุบลราชธานี 9 สมัย รวมอยู่ด้วย
นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ หรือ น้องกานต์ เบอร์ 11 พรรคเพื่อไทย ผู้สมัครส.ส.เขต 7 อุบลฯ ชื่นชอบการเมืองตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ช่วงเรียนคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ก็เป็นดาวคณะ ในปี 2560เป็นนายกสโมสรนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ และในปี 2561ลงรับสมัครเป็นนายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พร้อมกับเป็นหัวหน้าพรรคกันเกรา และผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคกันเกรา เบอร์ 3 ชนะการเลือกตั้ง ส่งผลให้ น้องกานต์ นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ผู้เป็นหัวหน้าพรรค ได้นั่งตำแหน่ง นายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในปี 2561 สมใจนึก
น้องกานต์ สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ผู้สมัครส.ส.อุบลฯ เขต 7 เบอร์ 11 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของเรา ว่า ได้ลงพื้นที่พบปะ เยี่ยมยาม ถามข่าวพี่น้องประชาชนมานานแล้ว โดยเมื่อ 3-4 ปี ก่อน ได้ลงพื้นที่ช่วยงานคุณพ่อร่วมกิจกรรมกับคุณพ่อ (อดีตส.ส.ชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ) มาโดยตลอด เวลาคุณพ่อติดประชุมที่สภาฯ ตนก็ทำหน้าที่นอกสภาแทนคุณพ่อ จนได้รับแรงเชียร์จากพี่น้องประชาชนให้ลงสมัครส.ส. และ ในที่สุดด้วยความรัก ความผูกพันกับประชาชน และ ด้วยความที่ชื่นชอบการเมืองมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ จึงได้ตัดสินใจลงสมัคร และ เมื่อลงพื้นที่หาเสียงตามหมู่บ้าน ก็ไม่หนักใจ เพราะได้รู้จัก ได้ใกล้ชิดได้สัมผัสกับพี่น้องประชาชนมานาน ซึ่งการลงพื้นที่หาเสียง ก็จะใช้กลยุทธ์แบบเดินเท้าเข้าหาประชาชนเคาะประตูบ้านขอคะแนน สลับกับการปราศรัยเป็นช่วงๆ เป็นจุด ๆ ไป เรื่อยๆ จนครบทุกหมู่บ้าน ก็รู้สึกปลื้มมาก เพราะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากพ่อแม่พี่น้องประชาชน ด้วยดี ทุกหมู่บ้าน
น้องกานต์ กล่าวอีกว่า การปราศรัย ไปตามหมู่บ้านหรือตำบลต่างๆ ก็จะเน้นในเรื่อง นโยบายของพรรค เช่น ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ต่อวัน , ปริญญาตรีเงินเดือนขั้นต่ำ 25,000 บาท , รถไฟฟ้าความเร็วสูง , รถไฟฟ้ารางคู่ ,การปราบปรามยาเสพติด , จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น , เพิ่มรายได้ให้พี่น้องประชาชน , นโยบายรักษาใกล้บ้าน หาหมอถูกใจ 30 บาทยุคใหม่ บัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรีทั่วประเทศ , การออกเอกสารสิทธิที่ดิน ให้ประชาชน แก้ปัญหาความยากจน ปากท้องพี่น้องประชาชน , ราคาข้าวต้องดีขึ้น ราคาวัวต้องดีขึ้น พืชผลการเกษตรราคาดี , พักหนี้ธกส. ทั้งต้นทั้งดอก , ครอบครัวยากจนได้รับเงินครอบครัวละ 20,000 บาท ต่อเดือน ถ้ารายได้ครอบครัวน้อยกว่า 20,000 บาท เราจะเติมเงินให้ครบ รวมทั้งโครงการโคขุนเงินล้าน และ นโยบายหรือโครงการอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังได้อธิบายการกาบัตรเลือกตั้งให้พี่น้องประชาชน ได้เข้าใจยิ่งขึ้น อีกด้วย
สุดท้าย “ น้องกานต์ ” นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ กล่าวว่า อย่าลืมนะคะ วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ถือบัตร 2 ใบ เข้าคูหา บัตรสีม่วง เลือกส.ส. แบบแบ่งเขต เลือกสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ด้วยการกาเบอร์ 11 และ บัตรสีเขียว เลือกพรรค ให้กา เบอร์ 29 พรรคเพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ทั้งแผ่นดิน เพื่อบอกลาความยากจน ค่ะ