ปราจีนบุรี-วันหยุด!ครูเพลงครวญเพลง ก้าวไกลมา พิธาเป็นนายกฯ
ปราจีนบุรี-วันหยุด!ครูเพลงครวญเพลง ก้าวไกลมา พิธาเป็นนายกฯ
ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ 20 พ.ค.66 นายมานิตย์ สนับบุญ ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่า หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) ที่พรรคก้าวไกล ได้คะแนนชนะการเลือกตั้งเหนือทุกพรรคการเมือง อย่างถล่มทลาย ซึ่งตามกติกา หลังผลการเลือกตั้ง สส.แล้ว พรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งสูงสุด หัวหน้าพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด จะได้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยในครั้งนี้ “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อายุ 43 ปี คือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ยังไม่ลงตัว นั้น พบในช่องยูทูปของนายกันพิเชฐษ์ หรืออดุลย์ มลิเกตุ อายุ 61 ปี ( Kanpichet Maliket ) นักแต่งเพลง และอดีตผู้อำนวยการสถานศึกษาชาวอำเภอประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้โพสต์เพลงที่แต่งขึ้น ตามสถานการณ์ทางการเมืองไทย ในปัจจุบัน ให้ความรู้ และ ความบันเทิง แก่ผู้ฟัง ชื่อเพลง “เพลง ก้าวไกลมา พิธาเป็นนายก” คำร้อง ทำนอง ขับร้องเองโดยนายกันพิเชฐษ์ หรืออดุลย์ มลิเกตุ /ดนตรี เบิร์ด บูรพา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ฟัง
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบนายกันพิเชฐษ์ หรืออดุลย์ มลิเกตุ ( Kanpichet Maliket ) กล่าวว่า การแข่งขันทางกาเมืองที่ผ่านมาการที่พรรคก้าวไกลได้มาเป็นผู้ชนะ เพราะ กระแสพรรคก้าวไกล มาแรงมาก ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ จนมาเป็นพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน จะเห็นว่า ประการแรกคือตัวหัวหน้าพรรคที่ทั้งหล่อ เท่ มีความรู้ดี การไปพูดจาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ดีเบต ปราศรัย คล่องแคล่งมีภูมิรู้ ทำให้หลาย ๆคนคลั่งไคล้พรรคอื่นหันมองพรรคก้าวไกล ประการ่อไปคือนโยบายของพรรคก้าวไกล อาทิ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน ,เงินเดือนเด็ก1,200 บาท เงินผู้สูงอายุ3,000 นี่เห็นเป็นนโยบายที่กินได้ การขึ้นเงินเดือนให้กับแรงานทันที 450 บาท หลังจากฟรอมรัฐบาลภายใน 100 วัน , การเลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด , และ เรื่องการที่ผู้คนเบื่อ อยากเปลี่ยนแปลงคนใหม่ ที่อดีตที่ผ่านมา 8- 9 ปี การเมืองไม่เปลี่ยนแปลงทำให้พรรคก้าวไกลได้เปรียบ ,รวมถึง สื่อโซเชี่ยลต่าง ๆ หัวหน้าพรรคหัวก้าวไกล มีหัวก้าวไกล ที่โซเฃี่ยลเชื่อมถึงกันทำให้พรรคก้าวไกล มีแต่คนรุ่นใหม่ ๆ และคนหัวเปลี่ยนแปลงเลือกเข้ามา และ ประการสุดท้ายคือเรื่องของการศึกษา ที่คนจบการศึกษาภาคบังคับจาก 6 ปี ปรับเปลี่ยนขยาย มาเป็น 9 ปี (ม.3) แล้วมีความคิด-ความอ่านมากขึ้น เมื่อคนรุ่นใหม่มีความคิดเป็นของตนเอง คนหนุ่ม-สาว ไม่ได้เรียนต่อมาทำงาน รวมถึงผู้คนทำงานอยากเปลี่ยนแปลงจังหวัด และ บ้านเมือง
ส่วนการแต่งเพลง หลังวันที่ 14 พ.ค.66 ทราบว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 ชนะการลือกตั้ง ต้องฟอร์มรัฐบาล หน.พรรคต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน หลังจากนั้น ยังบางกลุ่ม บางคน ที่ไม่อยากให้พรรคก้าวไกลขึ้น จึงได้แต่งเพลงให้รู้ว่าประชาธิปไตยต้องเป็นใหญ่ต้องยอมรับระบบประชาธิปไตยเอา “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้จัดตั้งรัฐบาลเปิด-เปลี่ยนประเทศไปด้วยกัน ดึงพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามา ประชาธิปไตยควรก้าวไปข้างหน้า ก้าวไกลมาประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ตามเนื้อหา ที่สะท้อนไว้ในบทเพลง” นายกันพิเชฐษ์ หรืออดุลย์ มลิเกตุกล่าวในที่สุด