“หมอแท้จริง”ทำหนังสือชื่นชมการแสดงสปิริตความเป็นผู้นำ ของหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ภาพ-ข่าว:อรกัญญา หลิมสัมพันธ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับได้ทำหนังสือขอขอบคุณที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ท่านหัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ได้แสดงสปิริตความเป็นผู้นำ
ทั้งนี้ตามที่ปรากฎข่าวสู่สาธารณชนกรณีนางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับฐานเมาแล้วขับ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ต่อมานางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากการเป็นว่าที่สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย
โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมาได้ปรากฎภาพข่าวในสื่อสารทุกแขนงซึ่งเป็นภาพคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อก เพื่อไปร่วมแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาล ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ในฐานะที่คุณพิธาเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ควรเคารพกฎหมาย และเป็นแบบอย่างที่ดีกับประชาชน ไม่ใช้อภิสิทธิ์เมื่อทำผิดกฎหมาย ต่อมาทางมูลนิธิเมาไม่ขับทราบว่าทางคุณพิธาได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของพรรคก้าวไกลไปชำระค่าปรับฐานนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกกันน็อกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ ในฐานะที่ทำงานรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงทางถนนมากว่า 30 ปี ได้ขอชื่นชมสปิริตของคุณพิธาว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ที่ยืนยันในหลักการความเท่าเทียม ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ฐานะใด เมื่อเป็นคนไทย อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เมื่อทำความผิดต้องอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายเหมือนกัน ไม่มีข้อยกเว้นหรือมีอภิสิทธิ์ใด ๆ
ทั้งนี้ในนามของมูลนิธิเมาไม่ขับ ผมจึงมีหนังสือมาเพื่อขอขอบคุณและขอชื่นชมในสปิริตความเป็นผู้นำของคุณพิธา เพราะสิ่งที่ว่าที่สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ได้แสดงออก และคุณพิธาได้แสดงออกในครั้งนี้ จะเป็นบรรทัดฐานที่ดีกับสังคมไทย เป็นภาพที่คนไทยทั้งประเทศจะจดจำและจะไม่ยอมให้ผู้บริหาร ชนชั้นนำ บุคคลสาธารณะคนใดใช้อภิสิทธิ์ ใช้ระบบอุปถัมภ์ ใช้ระบบพรรคพวกช่วยเหลือให้พ้นผิด เพราะสังคมไทยจะไม่ยอมให้เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป
