สมุทรปราการ-รวบหนุ่มสุดแสบทำตัวเป็นพลเมืองดีช่วยหญิงรถตกข้างทาง ก่อนจะออกลายชิงรถหลบหนี
ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง ผกก.สส.สภ.บางแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้คุมตัว นายคมศักดิ์ (หรือกอล์ฟ) จิตรสุภาพ อายุ 44 ปี มาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์” หลังก่อเหตุชิงรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน 6 กย 245 กรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 39 ตรอก 9 ซอย 4 (ถนนบางแสนสาย 2) ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางเสื้อที่ใช้ก่อเหตุและรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ดรีม สีแดง-ขาว ทะเบียน 3 กย 9534 ชลบุรี และทรัพย์สินของผู้เสียหาย โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟน ขณะที่ผู้ต้องหาเจอหน้าผู้เสียหายได้กราบเท้าขอโทษผู้เสียหาย พร้อมยอมรับความผิด
สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 นางธนัชชนม์ กลัญชัย อายุ 65 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความ ที่ สภ.บางแก้ว ว่าตนขับรถตกร่องน้ำริมถนน นายคมศักดิ์ ผู้ต้องหา ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาเจอ ทำทีเป็นพลเมืองดี เข้ามาช่วย ก่อนจะขับรถผู้เสียหายหลบหนีไป หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้เดินทางตรวจกล้องบริเวณที่เกิดเหตุ จนตามมาเจอรถยนต์เก๋งถูกจอดอยู่ภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนเทพรัตน์ กม.13 และสามารถตามไปจับกุมตัว นายนายคมศักดิ์ พร้อมของกลางได้ ที่ชลบุรี
จากการสอบถาม นางธนัชชนม์ (ผู้เสียหาย) เล่าว่า รถของตนเกิดอุบัติเหตุ แล้วเขาทำเป็นเหมือนพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือตน หลังจากนั้นเขาให้ตนขยับไปนั่งฝั่งซ้าย เขาก็ขึ้นมานั่งขับรถของตนและออกตัวพุ่งออกเลนขวาอย่างเร็วมาก ตนก็รู้สึกใจไม่ดีแล้ว ร้องขอผู้ก่อเหตุอย่าทำร้าย เขาก็บอกตนให้นั่งเฉย ๆ พอตนหยิบโทรศัพท์ออกมาเขาก็แย่งไป แล้วก็เขาใช้มือกดศีรษะตนให้ก้มลงไป ตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกปวดคออยู่เลย ก็เลยเกิดการต่อสู้กันอยู่พักนึง เขาก็ขู่ว่าเขามีมีดอย่างขัดขืน แต่ตนก็สู้ไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเอาเราไปไหน ก่อนที่ตนจะเปิดกระจกตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วย ตนจึงตัดสินใจดึงเบรกมือและเปลี่ยนเกียร์ไปที่พี พอรถหยุดตนก็เลยเปิดประตูแล้วรีบลงจากรถ ตนก็พยามมองหาคนให้ช่วยตามรถไปแต่ไม่มีใครช่วยเลย ตนก็ทำได้เพียงยืนมองเขาขับรถเราออกไป ดีที่รีโมทรถอยู่ที่ตัวตน ไม่ได้อยู่ในรถ ถ้าติดไปในรถเขาก็คงขับไปไหนต่อไหนได้ คือถ้าเขาจอดตรงไหนเขาก็จะไม่สามารถสตาร์ทรถได้แล้ว ตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัว ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะทำกับตนแบบนี้ ตนก็พูดขอเขาแล้วว่าอย่าทำอะไรตนเลย ตนก็อยากจะขอคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สุดยอดสามารถจับตัวคนรายได้อย่างรวดเร็ว ทรัพย์ที่โดนคนร้ายเอาไปก็ได้คืนหมด
ด้านนายคมศักดิ์ (ผู้ต้องหา) ให้การยอมรับว่า ตนก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตนขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะไปหาลูกที่อนุสาวรีย์ จังหวะตนเห็นผู้เสียหายยืนขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนน และตนก็มองรอบแล้วไม่มีคนด้วยเนื่องจากเช้ามืด ตนก็เลยไปยูเทิร์นรถกลับมาช่วย คือรถเขาตกลงคลองข้างถนนไปฝั่งนึงแล้ว ตนก็เลยโดดลงน้ำช่วยเอาหินเอาอะไรไปลอง จังหวะที่ผู้เสียหายเขาเหยียบไม่ขึ้น ตนก็เลยขึ้นขับแทน จนเอารถขึ้นมาได้ ก็ขับรถออกไปเลย โดยมีผู้เสียหายนั่งอยู่ข้าง ๆ ระหว่างที่ขับมาบอกผู้เสียหายว่าตนไม่มีเงินติดตัว ตนแค่อยากได้เงินติดตัวแค่นั้นเอง ผู้เสียหายร้องขอไม่ให้ทำอะไรเขา ตนก็บอกว่าตนไม่ทำอะไรเขา ที่นี้ด้วยความกลัวของผู้เสียหาย ตนก็พูดกับเขาตลอดตนไม่ทำแน่นอน รถนี้ตนก็ไม่เอา ผู้เสียหายก็พยามต่อสู้ตน ยื้อพวงมาลัยและเกียร์อยู่ตลอด ตนก็ปล่อยรถไหลไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเขาเปิดประตู ตนก็บอกเขาว่าอย่าโดด คุยกับตนดี ๆ ตนไม่ทำร้ายหลอก เดี๋ยวตนคืนรถให้
หลังจากผู้เสียหายลงจากรถไปแล้ว ตนก็ขับรถไปยูเทิร์นแล้วจอดรถในปั้มน้ำมัน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ไกล ตังค์ที่ตกอยู่ 250 บาท ตนก็เติมน้ำมันให้เขา 200 บาท และเอาติดตัวไป 50 บาท ส่วนเรื่องโทรศัพท์ของผู้เสียตนเหน็บไว้ข้าง ๆ เผื่อผู้เสียหายโทรเข้ามาตนก็จะบอกว่ารถจอดอยู่ในปั้ม หลังจากนั้นตนก็ถอดเสื้อนอกใส่ถุง แล้วก็ออกจากรถมานั่งรถสองแถวสีฟ้า ส่วนทรัพย์สินที่ตนนำไปมีเงินสด 250 บาท และโทรศัพท์ ตอนแรกที่ตนเจอผู้เสียหายตนมีความตั้งใจจะเข้าไปช่วย แต่ตนก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยว่าอาจจะเป็นปมที่ตนไม่มีเหมือนพี่ ๆ น้อง ๆ เขา อยากมีรถ หรืออาจจะอารมณ์ชั่ววูบ แล้วจะให้ตนขอโทษผู้เสียหายตนก็มองว่าไม่ทันแล้ว ตนยอมรับสภาพแล้ว ตนยอมรับเคยติดคุกมา 2 รอบแล้ว คดีลักทรัพย์กับยา แต่นานแล้ว ตนก็อยากจะขอโทษผู้เสียหาย ตนไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องแบบนี้ ตนก็อยากขอขมาด้วย
พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง.ผกก.สส.สภ.บางแก้ว หัวหน้าชุดจับกุม บอกว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ว่ามีผู้เสียหายเป็นหญิงสูงอายุ ขับขี่รถยนต์ส่วนตัว ฮอนด้า สีขาว มาตามทางบนถนนเทพรัตน ขาออก จนมาถึงช่วงกม8 รถเสียหลักตกลงไปข้างทางแล้วขับรถมาไม่ได้ จังหวะนั้นเอง ผู้ต้องหา คือ นาย คมศักดิ์ จิตรสุภาพ อายุ 44 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเจอผู้เสียพอดี จึงทำทีเป็นพลเมืองดีเข้าไปช่วยเอารถขึ้นมาจากข้างทาง ด้วยการขึ้นไปขับที่นั่งคนขับโดยออกอุบายให้ผู้เสียหายนั่งที่เบาะหน้าฝั่งซ้ายเพื่อถ่วงน้ำหนักกระทั่งสามารถถอยหลังขึ้นขึ้นจากข้างทางได้สำเร็จ ผู้ต้องหาจึงแสดงตัวเป็นคนร้ายและข่มขู่ผู้เสียหายให้ยืนยันส่งทรัพย์สินมาให้แต่ผู้เสียหายเกิดการต่อสู้ก่อนจะถูกคนร้ายข่มขู่ว่ามีอาวุธทำให้ผู้เสียหายขอให้ผู้ต้องหาปล่อยตัวและอาศัยจังหวะที่ผู้ต้องหาเผลอจึงดึงเบรกมือจนรถหยุดและเปิดประตูวิ่งหลบหนี กรทั่งตำรวจตามไปจับกุมตัวได้สำเร็จในวันเดียวกัน