ชลบุรี-ผบช.สตม.นำทีมแถลงข่าว ผลการปฏิบัติงานบุกจับต่างชาติ 5 คดีสำคัญ
ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี
ผบช.สตม.นำทีมแถลงข่าว ผลการปฏิบัติงาน 5 คดีสำคัญ รวบหนุ่มสวิส หนีหมายแดง -ไวกิ้งหนีหมายจับ -แก๊งเกาหลี แย่งงานคนไทย – หนุ่มจีนลักลอบอยู่ไทย 5 ปี
ตามที่ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. ได้มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย รวมทั้งสกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทยนั้น
ล่าสุด วันที่ 6 ก.ค.66 ที่ห้องประชุมโรงแรมลองบีช โฮเทล พัทยา จ.ชลบุรี สตม.ได้จัดแถลงข่าวผลการปฏิบัติงาน โดยมี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวต่อคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ
โดยสามารถทำการการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้ 1.รวบผู้ร้ายข้ามแดนมีหมายแดง หนีหมายจับคดีค้ายาเสพติด ก่อนบินหนีซุกเวียดนาม โดยทางสถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิส ประจำประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ทางการไทย จับกุมตัวชั่วคราวนายโจนาธาน (นามสมมติ) อายุ 31 ปี สัญชาติสวิส เป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อไปดำเนินคดีในความผิดฐานค้ายาเสพติดอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติยาเสพติด และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทของสมาพันธรัฐสวิส โดยช่วงปลายปี พ.ศ.2559 นายโจนาธาน ได้ลักลอบนำยาบ้ากว่า 2,000 เม็ด ที่ได้ติดต่อซื้อขายจากชาวแอฟริกาผิวสี ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และนำไปขายให้กับลูกค้าหลายรายในเมืองซูริค โดยสมาพันธรัฐสวิส ได้ออกหมายจับที่ B-18-2612 ลงวันที่ 28 ก.ย.61 ให้จับนายโจนาธาน ในความผิดฐานค้ายาเสพติดอย่างร้ายแรง และองค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอออกหมายจับชั่วคราว นายโจนาธาน และได้ส่งหมายจับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สืบสวนจับกุม
โดย ผบก.สส.สตม. เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ นายโจนาธาน เนื่องจากเป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศ ได้ออกหมายจับ พฤติการณ์เข้าลักษณะเป็นคนต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และสามารถจับกุมนายโจนาธาน ขณะเดินทางจากท่าอากาศยานกรุงเทพ ไปยังประเทศเวียดนาม ได้ที่บริเวณโถงผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานกรุงเทพ จึงแสดงหมายจับของศาลอาญาพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และทำบันทึกการจับกุมนำตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 2. บก.สส.สตม.รวบผู้ต้องหาชาวไวกิ้งหนีหมายจับกบดานไทย ได้แก่นายสเตฟาน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี สัญชาติสวีเดน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลประเทศสวีเดนและหมายจับสหภาพยุโรป ในข้อหากระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ และเป็นบุคคลตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ซึ่งได้หลบหนีคดีจากประเทศสวีเดนและเดินทางเข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย โดยนายสเตฟาน ได้ร่วมกับพวกกระทำการละเมิดสิทธิสัญญาณของ บริษัทผู้เสียหาย จำนวน 3 บริษัท สร้างความเสียหายให้กับบริษัทผู้เสียหาย จำนวนมาก โดย กก.1 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามหัวตัวนายสเตฟาน ขณะพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 3.บก.สส.สตม.รวบแก๊งหนุ่มแดนโสมแย่งอาชีพคนไทย โดย บก.สส.สตม. ได้จับชาวเกาหลี 5 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี ประกอบด้วย นายคิม (นามสมมติ) อายุ 40 ปี นายเบค (นามสมมติ) อายุ 28 ปี นายชอย (นามสมมติ) อายุ 32 ปี นายจุง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี นายชอน (นามสมมติ) อายุ 39 ปี โดยกล่าวหาผู้ถูกจับที่ 1 ว่า รับคนต่างด้าวซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน และกล่าวหาผู้ถูกจับที่ 2-5 ว่า เป็นคนต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยนายคิม ทำหน้าที่ หัวหน้าควบคุมดูแลและจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน จำนวน 4 ราย ที่ทำหน้าที่ ดูแลระบบ (admin) ในเว็ปไซต์การท่องเที่ยวของเกาหลี เพื่อชักชวนให้คนเกาหลีซื้อแพคเกจท่องเที่ยวแบบครบวงจรในลักษณะ ‘จ่ายเงินวอนครั้งเดียวจบ’ แล้วสามารถมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานประกอบการในเครือของชาวเกาหลีด้วยกัน สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
รายที่ 4.ตม.จว.ชลบุรี สนธิกำลังร่วมกับ สืบสวน ตม.3 จับกุมหนุ่มจีนลักลอบอยู่ไทยนานกว่า 5 ปี โดย ตม.จว.ชลบุรี ได้ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3 , สภ.เมืองพัทยา และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุม นายจาง (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติจีน ในความผิดฐาน อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ได้ที่บริเวณริมถนน ซอยนาเกลือ 18 หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายจาง รับสารภาพว่า สาเหตุที่อยู่ในราชอาณาจักรจนการอนุญาตสิ้นสุด เนื่องจากตนมีคดีลักทรัพย์ที่ประเทศจีน เกรงว่าหากกลับไปจะได้รับการลงโทษตามกฎหมาย จึงหลบหนีอยู่ในประเทศไทยเรื่อยมา จนถูกจับกุมดำเนินคดีในที่สุด
และรายที่ 5.จับชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย ในรูปแบบพนันออนไลน์และปลอมตราประทับเข้า-ออก ได้ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสัญชาติเวียดนามชายและหญิง 17 ราย พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ 12 เครื่อง ขณะทำหน้าที่เป็นแอดมินของเว็บพนันออนไลน์ ที่มีนายทุนเป็นชาวจีนอยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงพบบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีจำนวนหนึ่ง
จึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งเป็นชาวเวียดนาม พร้อมกับของกลางคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การผลิตหนังสือเดินทางและตรายางปลอม พร้อมของกลางอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาสอบสวนและบันทึกจับกุมที่ สภ.บางพลี ก่อนจะแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง คือบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม 12 คน ข้อหา “ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ม.12)” บุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม 4 คน ข้อหา ร่วมกันมีไว้ ซึ่งดวงตราหรือรอยตราประทับของเจ้าพนักงาน (ตราขาเข้า/ออกตม.ทอ.สุวรรณภูมิ)และ ร่วมกันมีไว้ ซึ่งหนังสือเดินทางของผู้อื่นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม เวียดนาม 1 คน ข้อหา มีบุรี่ต่างประเทศ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ผ่านขั้นตอนการศุลกากร