ประจวบคีรีขันธ์-อึ้ง..!พบเสาไฟโคมสับปะรดต้องสงสัยโผล่กองในบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลฯ

ประจวบคีรีขันธ์-อึ้ง..!พบเสาไฟโคมสับปะรดต้องสงสัยโผล่กองในบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลฯ

ภาพ-ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

                 พบเสาไฟโคมรูปสับปะรดที่ปรากฏในร้านรับซื้อของเก่า หลังหัวขโมยไปขอคืนโผล่กองอยู่ในบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่หน่วยงานเจ้าของสถานที่ยังปฏิเสธ รอพิสูจน์ทราบว่าลูกน้องทำผิดหรือไม่
                  วันที่ 11 กรกฎาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เสาไฟส่องสว่างริมอ่าวประจวบฯ ซึ่งเป็นเสาไฟโคมรูปสับปะรด ซึ่งมีมูลค่ารวมค่าติดตั้งต้นละ 80,000 ถึง 100,000 บาท ตลอดแนวอ่าวประจวบ ระยะทางรวมประมาณ 8 กิโลเมตร ชำรุดเสียหาย และถูกรื้อถอนนำไปคืนให้กับเจ้าของงบประมาณในการก่อสร้าง แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านไปพบโผล่กองอยู่ที่ร้านแก้วสุวรรณรีไซเคิล ซึ่งเป็นร้านรับซื้อของเก่าอยู่ที่บริเวณถนนสุขสมบูรณ์เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และต่อมามีกลุ่มบุคคลนำรถกระเช้าสีส้มมาขนกลับคืน หลังจากตกเป็นกระแสข่าว
                  คืบหน้าล่าสุด ทีมผู้สื่อข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจำนวนเสาไฟที่ติดตั้ง และที่ชำรุดเสียหายว่ายังอยู่ครบตามจำนวนหรือไม่ หรือ ถูกมือดีแอบขโมยลักไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าก่อนหน้านี้บ้างหรือไม่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เสาไฟโคมสับปะรดที่จัดซื้อจัดจ้าง โดยกรมการท่องเที่ยว มีจำนวน 75 ต้น ตั้งแต่สะพานสราญวิถีไปจนถึงรั้วกำแพงกองบิน 5 ชุมชนหัวบ้าน แต่สภาพปัจจุบันเหลือติดตั้งอยู่ริมอ่าวประจวบเพียง 68 ต้น ชำรุดและถูกถอดออกไป 7 ต้น ถูกกองเก็บเป็นซากวัสดุอยู่ในสำนักงานท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัดประจวบ จำนวน 3 ต้น อีกจำนวน 4 ต้น ยังหาไม่พบว่าถูกเก็บรักษาไว้ที่ใด ซึ่งด้านผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า เสาไฟที่ถูกนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าใช่เป็นของกรมท่องเที่ยวหรือไม่ จะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อน จึงจะไปแจ้งความเอาผิดกับหัวขโมยได้
                  ส่วนเสาไฟโคมรูปสับปะรดตั้งแต่สะพานสราญวิถีถึงสะพานบางนางรม สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อ้างว่า ได้ส่งมอบให้กับเทศบาลไปแล้ว และอยู่ในการดูแลรับผิดชอบของทางเทศบาล ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 60 ต้น ระยะทาง 500 เมตร สภาพการปัจจุบัน หลังจากผู้สื่อข่าวลงไปที่ตรวจสอบพบว่า ชำรุดไม่สามารถใช้การได้เป็นส่วนใหญ่ และ มีเสาไฟที่ถูกถอดออกไปจากริมเขื่อนอ่าวประจวบ จำนวน 24 ต้น ถูกพบกองเป็นซากกองอยู่ในบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาล จำนวน 3 ต้น ที่เหลือไม่ทราบถูกเก็บไว้ที่ใด โดยสำนักงานโยธาอ้างว่าภายในสำนักงานไม่มีเสาไฟมากองเก็บรักษาไว้แม้แต่เพียงต้นเดียวตามที่เทศบาลกล่าวอ้าง
                   ขณะเดียวกันเสาไฟโคมรูปสับปะรดหนึ่งในจำนวน 3 ต้นที่ถูกกองไว้ริมบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาลพบมีลักษณะรูปพรรณสัณฐานคล้ายกันกับที่พบภายในร้านรับซื้อของเก่า เนื่องจากมีความยาวเท่ากัน จุดที่เป็นสนิมผุกร่อนจุดเดียวกัน แถมสภาพบริเวณที่กองเสาไฟมีรอยวัชพืชถูกเสาไฟทับใหม่จนราบ ส่วนต้นที่กองอยู่บริเวณด้านใต้มีสภาพเก่าและมีวัชพืชปกคลุม  ส่วนอีกหนึ่งระยะตั้งแต่สะพานบางนางรมจนถึงค่ายลูกเสือตามม่องล่าย สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า มีจำนวน 180 ต้น เสาสูง 6 เมตร สภาพการปัจจุบันชำรุดเสียหายไป 1 ต้น ส่วนที่เหลือยังติดตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวประจวบฯมีสภาพที่ยังใช้งานได้ และยังอยู่ในความดูแลของสำนักงานโยธาฯ
                นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้นิติกรไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยังตรวจไม่พบว่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาคนใด ได้มีการแอบนำรถกระเช้าของทางเทศบาลขนเสาไฟฟ้าไปขายหรือไม่ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน ถึงจะทราบ เนื่องจากรถกระเช้าสีส้มไม่ได้มีเฉพาะของทางเทศบาล หน่วยงานเอกชนและหน่วยงานอื่นๆก็มีเช่นกัน จึงอยากให้ทางร้านของเก่าเปิดเผยข้อมูลกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน เพื่อชี้ชัดว่าเป็นบุคคลใด หรือรถกระเช้าของหน่วยงานใดนำเสาไฟไปขาย จะได้หาตัวผู้กระทำผิดได้เร็วขึ้น สำหรับเสาไฟโคมรูปสับปะรดที่ชำรุดเสียหาย ที่ผ่านมาเทศบาลได้เก็บไปคืนให้กับเจ้าของเงินงบประมาณ และบางส่วนก็เก็บไว้ในบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาล ยืนยันว่าตั้งแต่มารับตำแหน่งนายกยังไม่เคยพบเห็นเอกสารในการรับมอบเสาไฟจากหน่วยงานตามที่มีการกล่าวอ้าง ขอให้นำเอกสารมาแสดงยืนยัน และโครงการนี้มีมานานกว่า 10 ปี มีการชำรุดเสียหายมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งนายก

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!