ศรีสะเกษ-(คืบหน้า)รถตกเขาพังยับ..หนุ่มแขวนหลวงปู่สรวงไม่ได้รับบาดเจ็บ

ศรีสะเกษ-(คืบหน้า)รถตกเขาพังยับ..หนุ่มแขวนหลวงปู่สรวงไม่ได้รับบาดเจ็บ

ภาพ-ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

พ่อคนตายเผยลางสังหรณ์วันที่ลูกสาวนักกายภาพบำบัดไปวิ่งรถเก๋งใหม่เอี่ยมกระตุกหลายครั้งและลูกสาวไปคุยกับเพื่อนสนิททั้ง รพ.คล้ายกับเป็นลางบอกเหตุ

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้เกิดเหตุรถบัสรับส่งนักวิ่งที่มาเข้าร่วมการวิ่งโครงการ Suranaree Trail Running 2023 ซึ่งกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดการแข่งขันขึ้น โดยจุดสตาร์ทอยู่ที่ตลาดวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เส้นชัยอยู่ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา เมื่อนักวิ่งได้วิ่งถึงเส้นชัยแล้ว หน่วยงานที่จัดงานได้มีบริการรถบัสรับส่งนักกีฬาจากเส้นชัยกลับมาที่จุดเริ่มต้น โดยใช้เส้นทางถนนช่องสะงำ-บ้านแซไปร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ เพื่อมาส่งที่ตลาดหน้าวัดไพรพัฒนา เมื่อถึงบริเวณเกิดเหตุเป็นทางลาดชันลงจากด่านช่องสะงำก่อนถึงจุดชมวิวผาพญากูปรี ซึ่งมีลักษณะเป็นทางโค้งซ้าย รถบัสได้เสียหลักพุ่งชนแท่งปูนกั้นขอบทางตกลงไปในเหวลึกลงไปประมาณ 15 เมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 49 ราย และเสียชีวิต จำนวน 4 ราย ขณะที่หลายฝ่ายเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
                ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 11 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานที่ โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา พร้อมด้วยคณะนายทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี ได้ไปเยี่ยมนักวิ่งซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถบัสตกเขา ซึ่งคณะแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลภูสิงห์ ได้ทำการดูแลรักษาพยาบาลอย่างดี ทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นและเริ่มทะยอยเดินทางกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านของตนเองได้แล้ว ซึ่งในจำนวนนักวิ่งที่มาเข้าพักรักษาตัวและตรวจสภาพร่างกายที่ โรงพยาบาลภูสิงห์ ปรากฏว่า นายฐากูร จันทร์หอม อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 7 บ้านโคกเจริญ ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ สภาพร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งที่นั่งรถบัสคันเกิดเหตุตกลงไปใต้เขาและรถบัสพังยับเยิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลภูสิงห์ ได้ตรวจร่างกายของนายฐากูร อย่างละเอียดแล้วก็ไม่พบว่า ตามร่างกายของนายฐากูร มีบาดแผลแต่อย่างใด ซึ่ง นายฐากูร ได้แขวนเหรียญหลวงปู่สรวงรุ่นเสาร์ 5 เทวดาเดินดินอยู่ที่คอด้วย ซึ่งแพทย์พยาบาลที่ทราบข่าวต่างพากันมาขอดูเหรียญหลวงปู่สรวงที่นายฐากูรแขวนอยู่ที่คอ ซึ่งเชื่อว่าบุญฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สรวงทำให้นายฐากูรรอดชีวิตจากรถบัสที่พังยับและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
                นายฐากูร จันทร์หอม อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 7 บ้านโคกเจริญ ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เล่าว่า ตนได้ไปบูชาเหรียญหลวงปู่สรวง รุ่นเสาร์ 5 เทวดาเดินดิน มาจากวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว และใช้เชือกร่มแขวนคอติดตัวมาโดยตลอด ตนไม่เคยถอดเหรียญหลวงปู่สรวงออกจากคอเลย วันเกิดเหตุตนได้ไปร่วมวิ่งในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย และได้ขึ้นไปนั่งบนรถบัสคันเกิดเหตุโดยนั่งแถวหลังสุดของรถบัสที่มีนักวิ่งขึ้นมาบนรถเต็มรถ บรรยากาศบนรถค่อนข้างสนุกสนานมาก เมื่อรถบัสวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถบัสเบรคอย่างแรงและว่าระบบเบรคของรถขัดข้องทำให้รถบัสเสียหลักไปพุ่งชนแท่งปูนกั้นขอบถนนและพลิกคว่ำหลายตลบลงไปกองอยู่ใต้เขารถบัสพังยับเยิน ซึ่งขณะนั้นตนรู้สึกตกใจมากและระลึกนึกถึงบุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวงขอให้ท่านช่วยให้พ้นอันตรายด้วย ปรากฏว่าด้วยบุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวงรุ่นเสาร์ 5 เทวดาเดินดิน ทำให้ตนไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด และตนได้ออกจากรถบัสที่พังยับเยินเพื่อมาช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่งไปยังโรงพยาบาลภูสิงห์ด้วย
                  พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอ ภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 66 อาตมาภาพพร้อมด้วย จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ นายสมยศ พันธ์มา รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาและคณะอาจารย์ ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 37 บ้านซำตาโตงตะวันออก หมู่ที่ 14 ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเป็นเจ้าภาพในพิธีสวดพระอภิธรรมศพของ น.ส.อรทัย จำปาทอง อดีตนักกายภาพบำบัด โรงพยาบาลศรีรัตนะ ซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากการเข้าร่วมวิ่งโครงการนี้ด้วย โดยอาตมาภาพได้นำเอาผ้าไตร เหรียญหลวงปู่สรวง จำนวน 200 เหรียญ และเงินช่วยทำบุญจำนวนหนึ่งมามอบให้กับ นายชัย จำปาทอง อายุ 70 ปี พ่อของ น.ส.อรทัย ที่ต้องสูญเสียลูกสาวอย่างไม่คาดคิดจากอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยมีคณะแพทย์ พยาบาล ญาติพี่น้องและประชาชนทั่วไปมาร่วมพิธีจำนวนมาก
               นายชัย จำปาทอง อายุ 70 ปี พ่อของ น.ส.อรทัย จำปาทอง กล่าวว่า ลูกสาวของตนชอบการวิ่งเป็นอย่างมาก มีการจัดวิ่งที่ใดก็จะไปร่วมเป็นประจำอยู่เสมอ โดย น.ส.อรทัย เกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2526 และมาเสียชีวิตวันที่ 9 ก.ค. 2566 ก่อนถึงวันเกิดเพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุเพื่อนที่ทำงานด้วยกันเล่าว่า น.ส.อรทัย ได้ไปพูดคุยกับเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาลศรีรัตนะแทบทุกคน โดยพูดในเรื่องทั่วไปคล้ายกับลูกสาวของจะทราบว่า เป็นการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเป็นครั้งสุดท้าย และได้โอนเงินมาให้กับน้องสาวของตนเองเพื่อที่จะร่วมกันทำบุญกฐินกับครอบครัวที่จะทำกฐินกองใหญ่ อีกทั้งในเวลา 03.00 น. วันที่ 9 ก.ค. 66 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ รถเก๋งใหญ่เอี่ยมของ น.ส.อรทัย ลูกสาวของตนที่มีเพื่อนรุ่นน้องมาช่วยขับเพื่อที่จะไปร่วมการวิ่งครั้งนี้ ปรากฏว่ารถเก๋งได้กระตุกหลายครั้ง ทั้งที่เป็นรถใหม่เอี่ยม คล้ายกับว่าเป็นลางสังหรณ์บอกเหตุร้าย จนกระทั่งมาเกิดเหตุทำให้ น.ส.อรทัย ลูกสาวของตนเสียชีวิต ซึ่งตนและครอบครัวรู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก โดยจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพของ น.ส.อรทัย จำปาทอง ลูกสาวของตนในวันที่ 13 ก.ค. 66 เวลา 14.00 น. ที่วัดป่าหนองบอน ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จึงขอเชิญท่านที่เคารพนับถือ ญาติมิตรทุกคน ไปร่วมไว้อาลัยกับลูกสาวของตนด้วย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!