สมุทรปราการ-คนงานชายโรงงานดังย่านบางปู โดนไอความร้อนจากเตาหลอมในโรงงานลวกตัวดับ

สมุทรปราการ-คนงานชายโรงงานดังย่านบางปู โดนไอความร้อนจากเตาหลอมในโรงงานลวกตัวดับ

สมุทรปราการ-คนงานชายโรงงานดังย่านบางปู โดนไอความร้อนจากเตาหลอมในโรงงานลวกตัวดับ

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
จากกรณี เพจดังสมุทรปราการหลายเพจ นำเสนอข่าวหนุ่มโรงงานดังย่านบางปูสมุทรปราการโดนไอความร้อนจากเตาหลอมลวกตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแถมยังต้องนั่งรถสองแถวไปโรงพยาบาลเองโดยที่ผู้บาดเจ็บต้องนอนทรมานจากแผลผุผองทั่วร่างจากการโดนความร้อนกว่า20วันก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่23กรกฎาคม2566ตอนเที่ยงคืนจบความทรมานกว่า20วันโดยที่เพจสมุทรปราการได้โพสต์ข้อความว่าแสดงความเสียใจกับครอบครัวของหนุ่มโรงงานดังกล่าวสมุทรปราการบ้านเราที่ถูกไอความร้อนจากเตาหลอมในโรงงานลวกทั้งตัวโดยมีการแค็ปข้อความนำมาลงหน้าเพจใจความว่าไม่ไหวก็พักหลับให้สบายสู้มาได้ตั้ง19วันโคตรเก่งเลยปังปอนด์เมื่อวานวันอาทิตย์ที่23ก.ค.66ปอนด์มีอาการหยุดหายใจไปช่วงเวลาประมาณ1ทุ่มแต่หมอพยามปั๊มเพียงครั้งเดียวก็ขึ้นมาได้และจากนั้นก็ใส่เครื่องช่วยหายใจและให้ยากระตุ้นหัวใจ…..แต่หลังจากนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าปอนด์หยุดหายใจอีกครั้งครั้งนี้คุณหมอพยามปั๊มหัวใจใช้เวลาเกือบชั่วโมงแต่ปอนด์ก็ไม่กลับมาแล้วปอนด์จากไปด้วยอาการสงบคงไม่เจ็บปวดทรมานอีกแล้วนะปอนด์ไม่ต้องอดทนอีกต่อไปสบายแล้วใช่มั๊ยปอนด์ความรูสึกแบบนี้เกินใจจะรับไหวหลักจากที่เพจดังกล่าวได้ลงข้อความและภาพข้อความดังกล่าวไปในโลกออนไลน์ก็มีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก  โดยจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งพบว่าผู้บาดเจ็บดังกล่าวโดยสารมากับรถสองแถวที่คาดว่าเป็นรถรับส่งพนักงานโรงงานที่เกิดเหตุในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวลงมาจากรถคันดังกล่าวในสภาพที่ต้องหิ้วปีกลงมา ก่อนที่พยาบาลจะเข็นเตียงมารับ ก่อนที่จะนำผู้บาดเจ็บขึ้นเตียงเข็นไปที่ห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วนโดย จากภาพที่ผู้สื่อข่าวได้มา พบว่าผู้ตาย มีบาดแผลถูกลวกเกือบทั่วร่างกายโดยเฉพาะบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง ใบหน้า และแขนทั้ง 2 ข้าง จนเนื้อเยื่อเป็นแผลผุพอง
          ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามทางโรงพยาบาลที่ผู้เสียชีวิตเข้ารักษาทราบว่าผู้ตายชื่อ นายยศวรรธน์ พันภัย อายุ 22 ปี มีแผลถูกไฟลวกทั้งตัวเข้ามารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2556 โดยเดินทางมากับรถสองแถวของบริษัทหนึ่งมีเพื่อนร่วมงานนั่งมาด้วยทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวเข้ารักษาในห้องปลอดเชื้อ ก่อนจะมาเสียชีวิต เมื่อช่วงคืน วันที่ 23 กรกฎาคม 2566
ล่าสุดทางครอบครัวได้นำร่างไร้วิญญาณ ของ นายยศวรรธน์ พันภัย อายุ 22 ปี มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่ ศาลา 3 วัดราษฎร์โพธิ์ทอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกของทางครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน โดยจะตั้งสวดคืนนี้เป็นคืนแรก และ ฌาปนกิจ ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ในขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด เจ้าหน้าที่ประกันสังคมจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าพบกับทางครอบครัว เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และให้คำแนะนำสิทธิ์ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการทำงาน รวมถึงเงินเยียวยาที่ต้องได้รับ ให้กับทางครอบครัวได้รับทราบ พร้อมแนะนำแนวทางในเรื่องขอข้อกฎหมายแก่ทางครอบครัว
            นางสายฝน จันทนนท์ อายุ 52 ปี ป้าของผู้เสียชีวิต บอกว่า หลังจากที่เกิดเรื่องมาตนเองคอยไปเฝ้าไปเยี่ยมและให้กำลังใจมาตลอด ที่ผ่านมาผู้ตายกำลังใจดีและสู้ตลอด ยังพูดคุยกันตลอดและบอกว่าหากรักษาตัวหายจะออกไปกินเป็ดน้ำผึ้ง จนกระทั่งคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางขนิษฐา ศรีบัวชุม ประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่าหลังจากที่ทราบข่าวก็รีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าวถือเป็นการประสบอันตรายจากการทำงาน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทราบเรื่องและเข้าไปดูแลแล้ว ในส่วนของประกันสังคมจังหวัด ได้เข้ามาดูแลเรื่องของสิทธิ์ประโยชน์ที่ทางครอบครัวจะได้รับรวมถึงการเยียวยาต่างๆตามที่กฎหมายกำหนด ในเรื่องของการชดเชยการหยุดงานก่อนเสียชีวิต 19 วัน ค่าทำศพที่จะได้สิทธิ์ 50,000 บาท นอกจากนั้นยังมีค่าทอดแทนการเสียชีวิต ซึ่งประกันสังคมต้องจ่ายในอัตราค่าแรงร้อยละ 70 ของค่าแรงเป็นจำนวน 120 เดือน เฉลี่ยแล้วเดือนละเก้าพันกว่าบาทรวมแล้วกว่าล้านบาททีจะต้องจ่ายให้กับทางทายาทของคนตาย
นายพัฒนชาต ชุมทอง สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่าขณะนี้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงงานดังกล่าวแล้ว เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานต่างที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเกิดขึ้นในพื้นที่จุดที่มีหม้อลมเย็นลมร้อน ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นหนึ่งในทีมที่ลงไปซ่อมหม้อลมร้อนในจุดดังกล่าว ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนประเด็นที่ออกมาระบุว่าการใช้รถกระบะสองแถวของทางบริษัทมาส่งคนเจ็บแทนและไม่มีการแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อส่งรถพยาบาลไปรับนั้น ทางตัวแทนบริษัทออกมาระบุเบื้องต้นว่าเป็นไปตามแผนเผชิญเหตุขอทางโรงงาน ส่วนที่ไม่มีการร้องขอรถพยาบาลนำส่งนั้นทางตัวแทนของบริษัทระบุทำนองว่าด้วยอาการของคนเจ็บเองซึ่งตอนนั้นยังรู้สึกตัวและไม่สะดวกต่อคนเจ็บ อย่างไรก็ตามก็ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อเข้าสู้ขบวนการตามขั้นตอนต่อไป

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!