สระบุรี-ลาบหัวปลี อาหารพื้นถิ่น ที่ใครมาแล้วห้ามพลาด
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
ที่ จ.สระบุรี ด้วยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดกิจกรรม 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น นั้น จังหสัดสระบุรี ถูกคัดเลือกให้ลาบหัวปลี เป็นอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดสระบุรี หากพูดถึงลาบหัวปลีแล้ว หลายคนจะต้องมุ่งหน้าไปยังตลาดหัวปลี ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ในOtto นวัตวิถี ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ภายในตลาดหัวปลีมีสินค้าจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอาหารของที่นี่ ได้ขึ้นชื่อว่าถูกปากนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเลยคือ พาชนะใส่อาหารของที่นี้ตะดูแปลกตาไม่ใช้จานชาม หากแต่ใช้วัสดุธรรมชาติ คือกาบกล้วย นำมามาอัดเข้ารูปด้วยความร้อนจนมีลักษณะคล้าน่านแล้วนำมาใส่อาหารภายในตลาดแห่งนี้
นายเฉลิมศักดิ์ เสปานัน อายุ 41 ปี (ผู้ฝึกสอนทำจานกากไผ่) พูดว่า เราได้ทำการล้างกากไผ่ เพราะข้างหลังมันจะสกปก ต้องล้างให้สะอาด แล้วนำเข้าเครื่องอัด เพื่อนำกากไผ่มาทำเป็นจานชั่วคราว จากนั้นเราก็นำกากไผ่มาวางบนเครื่องจักร แล้วเลือกขนาดให้ใกล้กับโม ซึ่งมันจะมีอยู่ 3 โม แล้วแต่เราจะเลือก ถ้าทำเป็นรูปหัวใจ จะใช้มิตเตอร์อยู่ที่ 1,000 วัตต์ ใช้ความร้อน 130 องศา เวลาประมาณ 40 วินาที ก็ได้เป็นรูปแบบจานออกมา แต่ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับความหนาของวัสดุที่เรานำมาทำ ถ้าเป็นตัวกากหมาก จะใช้เวลาอยู่ที่ 1 นาที จากนั้นพออัดเสร็จแล้ว สามารถนำจานกากไผ่มาใส่อาหารได้เลย แต่ถ้าอยากให้มีรูปทรงที่สวย เราก็ตัดขอบออก หรือจะไม่ตัดก็ได้ เพราะบางคนก็ชอบแบบตัดขอบ ส่วนบางคนชอบแบบไม่ตัดขอบ เพราะจะได้รู้ว่าจานใบนี้ทำมาจากอะไร ตนเองอยู่ประจำที่ศูนย์นี้ เป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับสอน จะสอนทุกวันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เรื่องการสอนนั้น ตนเองสอนเป็นกรุ๊ป ถ้ามีคนเข้ามาดูงานก็ได้สอน แต่ถ้าไม่มีคนเข้ามาดูก็ไม่ได้สอน เดือนๆนึงก็หลายกรุ๊ป ยิ่งช่วงนี้มีคนมาเข้ามาดูตลอด ส่วนอาหารทีาขึ้นชื่อของที่นี่คือลาบหัวปลี ขึ้นชื่อถึงกับว่าใครก็ตามที่ได้ลองลิ้มชิมรสกันแล้ว ต้องมีจานที่ 2 หรือกลับมาที่ตลาดแห่งนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน ผู้สื่อข่าวจึงถามวิธีการทำลาบหัวปลีของที่นี่ว่ามีการปรุงแต่งรสชาติอย่างไร ซึ่ง นาง นารีรัช อุทัยแสงสกุล ประธานชุมชนการท่องเที่ยวตลาดหัวปลี จ.สระบุรี ได้บรรยายถึงเครื่องปรุงที่ต้องใช้ และขั้นตอนตอนต่างๆ ในการปรุง โดยมี นาย จุมพฎ วรรณฉัตรสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งนำคณะมาศึกษาดูงานที่ตลาดหัวปลี เป็นลูกมือในการทำลาบหัวปลี
ด้าน นางนารีรัช อุทัยแสงสกุล ประธานชุมชนการท่องเที่ยวตลาดหัวปลีจ.สระบุรี กล่าวว่า สำหรับวันนี้เมนูซิกเนเจอร์ของตลาดหัวปี ก็คือ ลาบหัวปลี และเป็นเมนูอาหารวัฒนธรรม 1 เมนู 1 จังหวัด ซึ่งใครที่มาจ.สระบุรี จะต้องได้ทาน ส่วนวัตถุดิบที่เราจะใช้ มี 1.หัวปลีกล้วยไทย ซึ่งมีประโยชน์มากเป็นพืชที่มีโปรตีนสูง 2.เครื่องสมุนไพร เช่น ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม พริก มะขามเปียก และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ข้าวคั่ว หรือ ข้าวเจ๊กเชย ซึ่งสระบุรีมีสินค้าจีไอ นอกจากปลูกหอมแล้ว ก็คือ ข้าวเจ๊กเชย ซึ่งจะเปนข้าวที่มีดัชณีน้ำตาลต่ำ คนที่เป็นเบาหวาน ทานข้าวเจ๊กเชย น้ำตาลจะไม่สูง และที่สำคัญกว่านั้นข้าวเจ๊กเชย คุณสมบัติคือ ใช้สำหรับทำข้าวผัด เนื้อข้าวจะร่วนซุย ไม่แฉะ หรือนำไปทำพวกขนมจีนต่างๆ สำหรับวัตถุดิบในการทำลาบหัวปลี 1.หัวปลีแบบสับละเอียด ใช้แต่ใจหัวปลีเท่านั้น 2.เครื่องลาบที่มีสมุนไพรกว่า 10 ชนิด 3.ผักชีใบเลื่อย 4.น้ำมะขามเปียก 5.เกลือ 6.น้ำมันพืช 7.ข้าวเจ๊กเชยคั่ว ซึ่งขั้นตอนในการทำ เราจะนำหัวปลีแบบสับละเอียดเทลงในภาชนะ แล้วตามด้วยเครื่องลาบสมุนไพร ขยำบี้คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำเกลือใส่ลงไปในน้ำมะขาม คนให้เกลือละลาย ซึ่งเป็นวิธีการที่จะทำให้ความกลมกล่อมถูกผสมก่อนที่เราจะไปปรุง ต่อมาเราจะใส่ผักชีใบเรื่อยและโรยข้าวคั่วลงไป แล้วขยำให้เข้ากัน ใส่น้ำมะขามที่ผสมเกลือลงไป จากนั้นตั้งเตาเทน้ำมัน และใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป ผัดคั่วไปเรื่อยๆจนหอม 1 กระทะ 1 กิโลกรัม มูลค่า 1,000 บาท กล่องละ 50 กรัม 50 บาท จากนั้นนำใส่ภาชนะที่เราเตรียมไว้เป็นอันเสร็จสิ้น