ชลบุรี-หลายหน่วยงาน สนธิกำลังบุกตรวจลักลอบนำรถแบ็คโฮ ขุดดินถมทะเลสัตหีบ

ภาพ/ข่าว:นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

          จากกรณี วันที่ 1 ก.ย.66 ช่วงเวลา 10.00 น. นายณัฐพงศ์ พิทักษ์กรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.แสมสาร ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีคนนำรถแบ็คโฮเข้ามาขุดดินบริเวณริมทะเล ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายชูศักดิ์ นันทิธัญธาดา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ นายสุนทร พุ่มโพธิ์ทอง กำนันตำบลแสมสาร จนท.ฝ่ายปกครอง อำเภอสัตหีบ รุดไปตรวจสอบและทำบันทึกการตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น คนงานได้นำรถแบ็คโฮและรถบรรทุกขึ้นจากทะเล ออกไปจากพื้นที่ ก่อนได้นำหลักฐานวีดีโอพร้อมรูปถ่าย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ท.กมล อัปการัตน์ รอง.ผกก.(สอบสวน) สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเข้าตรวจสอบต่อไป
          ล่าสุดวันที่ 4 ก.ย.66 นายชูศักดิ์ นันทิธัญธาดา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ,เจ้าท่าพัทยา ,สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 9 (ชลบุรี) ,สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ,ฐานทัพเรือสัตหีบ, อำเภอสัตหีบ บูรณาการสนธิกำลังร่วมกัน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง บริเวณริมทะเล ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบ พบร่องรอยของการกระทำความผิดในการขุดทราย มีกองหินทำสำหรับรอดักทราย การทำถนนคอนกรีตลงทะเล และการเคลื่อนย้ายทรายจากทะเล มากองไว้บนที่ดินส่วนบุคคล และจะนำหินลงไปถมในทะเล โดยสำนักงานเจ้าท่าพัทยา จะดำเนินการตามกฎหมายของ กรมเจ้าท่า ในกรณีปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า เททิ้งหิน ดิน ทราย อันเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขินสกปรก ฯลฯ และฝ่ายปกครอง ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม กรณีเคลื่อนย้ายทรายจากที่สาธารณะมาไว้ในที่ส่วนบุคคล และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จะได้ดำเนินการตรวจสอบแนวประการังว่ามีผลกระทบและมีแนวปะการังเสียหายหรือไม่ หากตรวจพบกรณีพื้นที่ดังกล่าวมีการทำลายปะการัง จะได้รวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ เพื่อสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          เบื้องต้น แต่ละหน่วยงานจะได้มีการตรวจสอบความผิดในบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะเข้าจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ในส่วนที่หน่วยงานนั้นรับผิดชอบดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด เพื่อการออกหมายเรียกผู้กระทำความผิดมาสอบสวน และรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป