สมุทรปราการ-สองหัวขโมยติดยา ออกตระเวนลักทรัพย์ ขโมยแบตเตอรี่รถนายก

สมุทรปราการ-สองหัวขโมยติดยา ออกตระเวนลักทรัพย์ ขโมยแบตเตอรี่รถนายก

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์

          เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 กันยายน 2566 พ.ต.ต.เกริกชัย สุขันทอง สวป.สภ.พระประแดง / นายสำเนาว์ รัศมิทัต นายก อบต.บางน้ำผึ้ง / นายวีริศ รัศมิทัต กำนัน ตำบลบางน้ำผึ้ง พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหา 1.นายต้น เขม่นกิจ อายุ อายุ 27 ปี 2.นายวิมล สุขศรี อายุ 23 ปี ที่ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ ในพื้นที่ 6 ตำบล ( กระเพาะหมู ) พร้อมของกลางแบตเตอรี่รถยนต์ จำนวน 2 ใบ ( ใบละประมาณ 2-3 พันบาท ) และ รถจักรยานยนต์ยามาฮ้า ฟีโน่ สีแดง ทะเบียน องษ 470 กทม ที่ใช้ก่อเหตุ โดยขยายผลตรวจยึดแผ่นอลูมิเนียมรองขารถเครน จำนวน 1 แผ่น ( ราคาเกือบ 1 หมื่นบาท ) ได้ที่ร้านรับซื้อของเก่า โดยเจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้บริเวณแคมป์พักคนงาน ปากซอยเพชรหึง 22 ตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมียานพาหนะเพื่อให้สะดวกในการพาทรัพย์หลบหนี และเสพสารเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 ( ยาบ้า ) จากการสืบสวน เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ได้ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ 6 ตำบลกระเพาะหมู ( ตำบลบางกระเจ้า / ตำบลบางน้ำผึ้ง / ตำบลบางกอบัว / ตำบลบางกระสอบ / ตำบลบางยอ / ตำบลทรงคนอง ) ในช่วงเวลากลางคืนมาได้ประมาณเกือบ 2 เดือน และมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ราย ที่โดนก่อเหตุในพื้นที่ ขณะนี้มีผู้เสียหายเริ่มทยอยเข้ามาดูตัว และแจ้งความเพิ่มเติมหลายราย โดยทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง และเงินที่ได้มาเอาไปซื้อยาเสพติดและเล่นเกมส์ จากนั้นชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
          นายสำเนาว์ รัศมิทัต ( นายก อบต.บางน้ำผึ้ง ) กล่าวว่า ตนเองก็ถูกขโมยแบตเตอรี่เช่นกัน โดยถูกขโมยแบตเตอรี่รถแม็กโค 2 คัน และ รถเทรนเลอร์ 1 คัน รวมแล้วแบตเตอรี่ที่หายไปทั้งหมด 6 ใบ โดยราคาแบตเตอรี่ ใบละ ประมาณ 4200 บาท มูลค่ารวมแล้ว 2 หมื่นกว่าบาท จากนั้นตนเองได้ตั้งชุดเฉพาะกิจเฝ้าดูรถ และ บุคลต้องสงสัยตามภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเฝ้ามาเป็นเวลา 2 คืน ก็ไม่เจอตัว จนกระทั่งช่วงเช้า มีเครือข่ายจากชาวบ้าน ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนนำแบตเตอรี่มาขาย สงสัยว่าจะเป็นแก๊งตะเวนลักแบตเตอรี่จึงได้เข้าตรวจสอบ โดยจากการเข้าตรวจสอบก็พบว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับภาพในกล้องวงจรปิด จากการตรวจสอบพบว่าเป็นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จากการสอบถามพบว่าตะเวนก่อเหตุในพื้นที่ 6 ตำบลคุ้งบางกระเจ้า เพื่อนำไปขายและมาซื้อยาเสพ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือ ภาคประชาชน ที่ร่วมกันช่วยกันเป็นหูเป็นตา จนติดตามคนก่อเหตุมาได้

          นายวีริศ รัศมิทัต ( กำนัน ตำบลบางน้ำผึ้ง ) เผยว่า ตนเองได้รับแจ้งจากลูกบ้าน ในพื้นที่ว่ามีของหาย โดยเฉพาะเเบตเตอรี่ จึงได้ไปไล่ดูกล้องวงจรปิดจนพบ และ ได้ส่งข้อมูลเข้าไปตามกลุ่มเครือข่าย ที่มีองค์กรท้องถิ่น และชาวบ้านเข้าร่วมกลุ่ม เพื่อให้ทุกคนช่วยกันสังเกตุการณ์ โดยในส่วนของตนก็ได้จัดชุดเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อที่จะไปดักเฝ้ารอคนก่อเหตุในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้มา จากนั้นช่วงเช้า มีชาวบ้านที่อยู่ในเครือข่าย โทรมาแจ้งว่ามีคนนำแบตเตอรี่มาขาย จึงให้ถ่วงเวลาไว้ และ ตนเองได้ประสานไปยังทีมงานของตน เข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่อยู่ในกล้องวงจรปิดจึงได้จับกุมตัวไว้ และ นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเรื่องนี้ทางท่าน นายอำเภอ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และ ได้โทรมาสอบถามตลอด

          จากการสอบถาม นายต้น เขมนกิจ อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ได้เล่าว่า ตนเองตะเวนก่อเหตุกับเพื่อน โดยจะขับรถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ เจอตรงไหนก็จอดขโมยตรงนั้น จะเน้นไปที่แบตเตอรี่ ซึ่งง่ายในการถอด และจะเลือกเป็นรถบรรทุก เนื่องจากแบตเตอรี่ของรถบรรทุกจะอยู่ด้านข้างของตัวรถ เมื่อได้แบตเตอรี่มา นำไปขายได้เงินมาก็จะนำไปซื้อยามาเสพ และ เล่นเกมส์ ปกติแล้วตนเองทำงานอยู่เรือ แต่ช่วงนี้งานไม่ค่อยมี จึงมาตะเวนก่อเหตุ ทำมาหลายครั้งแล้วก็ไม่โดนจับ จนกระทั่งครั้งนี้ ตนเองได้นำแบตเตอรี่ที่ขโมยมาไปขายตามบ้าน โดยคนที่จะซื้อบอกให้รอแป๊บนึง ขอถามเพื่อนก่อนและให้ตนเองรอ ตนเองก็นั่งรอเพราะคิดว่าจะมีคนมาซื้อ แต่กลับกลายเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาจับกุมตัว

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!