อุบลราชธานี-อพยพประชาชน หนีน้ำมูลเอ่อล้น

อุบลราชธานี-อพยพประชาชน หนีน้ำมูลเอ่อล้น

ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจจังหวัดอุบลราชธานี

          วันที่ 14 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการให้หน่วยงานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดอุบลราชธานี ปี 2566 บูรณาการหน่วยงาน ในการปฏิบัติการ เคลื่อนย้ายอพยพประชาชนขึ้นสู่ที่สูง ซึ่งระดับน้ำมูล ณ วันที่ 13 กันยายน 2566 วัดระดับที่สถานี M 7 สะพานเสรีประชาธิปไตย วัดได้ 110.33 ม.รทก. ส่งผลให้ชุมชนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบ 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนเบ็ญจะมะมหาราช 1 (ชุมชนวังแดง) อพยพเคลื่อนย้าย จำนวน 5 ครัวเรือน และชุมชนวัดบูรพา 2 อพยพเคลื่อนย้าย จำนวน 2 ครัวเรือน โดยได้บูรณาการปฏิบัติประกอบด้วยเทศบาลนครอุบลราชธานี อพยพเคลื่อนย้ายและจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ สวนสาธารณะห้วยม่วง ศูนย์ ปภ.เขต 13 อุบลราชธานีสนับสนุนเต็นท์มูลนิธิราชประนุเคราะห์ในพระบรมราชปถัมภ์ จำนวน 10 หลัง และ รถยกสูงเคลื่อนในการย้าย จำนวน 1 คัน มทบ.22กำลังพล 5 นาย กองบิน 21 กำลังพล 15 นาย พร้อมรถเคลื่อนย้าย 1 คัน โครงการชลประทานอุบลราชธานี นำกระสอบทรายวางเพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจร และอำเภอเมืองอุบลราชธานีร่วมประสานการปฏิบัติ
          ขณะเดียวกัน นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายชานนท์ พันธุยา หัวหน้าฝ่ายช่างกล และ นายพีระพงษ์ พงษ์ศิริจันทร์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 นำเจ้าหน้าที่ชลประทาน เร่งดำเนินการนำกระสอบทราย จำนวน 500 ใบ ลงพื้นที่วางแนวคันกั้นน้ำเพื่อช่วยเหลือบ้านเรือนประชาชนบริเวณชุมชนโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช 1 (ชุมชนวังแดง) เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำจากลำน้ำมูลน้อย ลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล เพิ่มสูงขึ้นและไหลเอ่อเข้าน้ำท่วมภายในชุมชน เนื่องจากบริเวณชุมชนเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดริมน้ำ
          ทางด้าน นายจักริน ประเสริฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 ได้สั่งการให้โครงการชลประทานที่อยู่ในสังกัด จัดเตรียมกระสอบทรายเพื่อเตรียมความพร้อมสนับสนุนช่วยเหลือได้ทันที หากเกิดเหตุการณ์อุทกภัยหรือมีประชาชนร้องขอ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วน กรมชลประทาน 1460 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!