สุพรรณบุรี-แห่ขอโชคลาภกระดูกแข็งเป็นหิน เชื่อว่าเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์

ภาพ/ข่าว:มงคล / รัตนา / พงศกร สว่างศรี

          ไปกันที่วัดปู่เจ้า อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านและรวมพลคนดวงเฮง ดวงปัง ต่างปลื้มปิติ ที่สร้างพระประธานหอสวดมนต์จนสำเร็จเป็นองค์พระ เดิมท่านมีแต่เศียร ที่ทำจากไม้ แล้วมีคนนำมาถวายให้เจ้าอาวาส ตั้งอยู่บนกุฏิมาช้านาน ต่อมามีนักท่องเที่ยวมาพบเห็น จึงได้ตั้งจิตอธิฐาน ต่อหน้าองค์เศียรพระพุทธรูป ว่าถ้ากลับไปมีโชคลาภ บ่อยๆจะพาเพื่อนกลับมาร่วมทำบุญ ต่อให้เป็นองค์พระสมบูรณ์สวยงาม แล้วจะอัญเชิญประดิษฐานไว้ที่หอสวดมนต์ หลังจากนั้นไม่นานปรากฏว่า กลับไป ก็มีโชคลาภ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง บ่อยครั้ง หลายงวด เลยชักชวนบอกต่อเพื่อนๆ ที่ได้รับโชคใหญ่ด้วยกัน ช่วยกันบูรณะ จนสำเร็จเป็นองค์พระประธาน หน้าตักกว้าง 1.5 เมตร ซึ่งภายในองค์พระ ยังบรรจุพระเครื่องพระเกจิ พระกรุเก่าสุพรรณบุรี ของมีค่านับร้อยชิ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่าหลักล้านและขนานนามชื่อท่านว่า “หลวงพ่อประทานโชค” ปางประทานพร พระอานนท์ 8 ประการ ตามความศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ขอพรไว้
          นอกจากนี้ ชาวบ้านสายมู ยังไปลูบ กระดูกแข็งเป็นหิน เหมือนฟอสซิล ไดโนเสาร์ ที่นายจักรี ได้เดินทางไปท่องเที่ยวทำบุญไหว้พระ ที่วัดไร่ตาพุด จ.เพชรบูรณ์ แล้วไปพบเห็น ชิ้นกระดูกดังกล่าว ทิ้งไว้ใต้ต้นโพธิ์ เลยลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่าคล้ายกระดูกฟอสซิล ของไดโนเสาร์ จึงเข้าไปขอกับทางวัด แล้วนำมาให้เพื่อนๆที่จังหวัดสุพรรณบุรีได้ดู หลายคนต่างลงความเห็นว่า เป็นกระดูกฟอสซิลแน่ๆ เพราะแข็งเป็นหินและมีน้ำหนัก ทำให้ชาวบ้านและเด็กๆ ต่างสนใจมาดู ช่วยกันหาข้อมูลเทียบเคียงในอินเตอร์เน็ตกันใหญ่ เพราะเคยมีข่าวว่าที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เคยพบซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ ส่วนปลายของกระดูกอิสเซียม (กระดูกสะโพกส่วนหน้า) ของไดโนเสาร์โปรซอโรพอด มาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในเขต อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ และพบว่าอยู่ในยุคไทรแอสซิกตอนปลาย (210 ล้านปี) เก่าที่สุดในประเทศไทยและถ้ามีผู้รู้ ผู้เชียวชาญ ก็สามารถมาพิสูจน์ดูได้ ว่าเป็นฟอสซิล ของสัตว์ชนิดใด ซึ่งชาวบ้านบางราย ยังบอกว่าเพิ่งเคยเห็นกระดูกไดโนเสาร์เป็นครั้งแรก ต่างมาลูบๆคลำ ถ่ายรูปส่งต่อให้เพื่อนๆดู แล้วก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปเขย่าเซียมซี่และล้วงเลขไหนำโชค ได้หมายเลข 965 27
          สำหรับวัดปู่เจ้า ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เป็นวัดดังเก่าแก่อายุนับร้อยปี ที่ชาวบ้านในพื้นที่และใกล้เคียงต่างเคารพศรัทธา ตาภู(ตาปู่) ศาลปู่เจ้า และเรียกชื่อตามชุมชนว่าบ้านปู่เจ้าและเป็นที่กล่าว ในโคลงนิราศสุพรรณ ของสุนทรภู่ อีกด้วย ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ศาลปู่เจ้า ว่าถ้าใครทำของหายหรือหาอะไรไม่พบ หรือมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันมีเรื่องทุกข์ร้อน ก็ให้มาบนบาลกับศาลปู่เจ้า แล้วมักประสบผลสำเร็จทุกราย ก็จะมาแก้บนกันด้วย รูปปั้นจระเข้ ตุ๊กตาจระเข้ ซึ่งเป็นพาหนะของตาปู่ รวมทั้งเหล้าขาวหรือประทัด ที่ตาปู่ชอบ วัดปู่เจ้าตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ปัจจุบันมีพระครูธรรมธร สุวัฒน์ สุวฑฒโณ หลวงตาโอ เป็นเจ้าอาวาส