ศรีสะเกษ-หนุ่มอาชีวะหลอนกัญชาคว้าปืนกระหน่ำยิงญาติสาหัส 2
ภาพ-ข่าว ศิริเกษ หมายสุข
หนุ่มอาชีวะหลอนกัญชาคว้าปืนกระหน่ำยิง 6 นัดญาติหนุ่มพนักงานขายน้ำอัดลมยี่ห้อดังสาหัส ขณะที่แม่ยายใจเด็ดกระโดดขวางหลานชายไม่ให้ยิงลูกเขยที่โดนยิงฟุบในบ้าน
เมื่อเวลา 20.35 น.วันที่ 19 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.หญิง ยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บ้านเลขที่ 247 หมู่ 1 บ้านโพนค้อ ต.โพนค้อ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและชุดปราบปราม สภ.เมืองศรีสะเกษ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า มีชาวบ้านพากันมามุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานได้นำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ขณะที่มือปืนรายนี้ถูกผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านโพนค้อและชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ได้พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า ที่บริเวณประตูกระจกบ้านที่เกิดเหตุมีรอยกระสุนปืน จำนวน 2 นัด ทำให้กระจกแตกเป็นรู บริเวณข้างบ้านที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 6 นัด กระจายเกลื่อนพื้น ส่วนปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานแล้ว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุทิน อายุ 41 ปี เป็นพนักงานขายน้ำอัดลมชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง และเป็นลูกเขยของนางสายทอง แก้วมณีย์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายวีระภาพ หรือทีม อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาระดับชั้น ปวส.1 ของสถาบันอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ
นางสายทอง แก้วมณีย์ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอาการที่ยังไม่หายจากความตื่นเต้นตกใจว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงนายวีระภาพ ซึ่งเป็นหลานชายของตน ได้ตะโกนร้องเรียกนายสุทิน ซึ่งเป็นลูกเขยของตน ขณะนั้นนายสุทินกำลังนั่งอยู่กับ น.ส.พัชราภรณ์ ซึ่งเป็นภรรยา และกำลังนั่งทำขนมเพื่อเอาไปขาย แต่ว่านายสุทินไม่ได้เดินออกไป ปรากฏว่านายวีระภาพซึ่งขณะนั้นกำลังมีอาการหลอนยา เนื่องจากสูบกัญชาอย่างหนักเป็นประจำทุกวัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงจากหน้าบ้านเข้ามาใส่นายสุทิน จำนวน 6 นัด โดยกระสุนปืนยิงถูกนายสุทินบริเวณหลังด้านขวา 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด และแขนขวา 1 นัด นายสุทินได้ลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าไปด้านหลังบ้านและล้มลง ตนเห็นเช่นนั้นจึงได้วิ่งเข้าไปขวางกั้นร่างของนายสุทินที่ล้มฟุบอยู่กับพื้นบ้านเอาไว้ และร้องห้ามไม่ให้นายวีระภาพใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาอีก ขณะนั้นนายวีระภาพก็จะปีนหน้าต่างเข้ามายิงอีก แต่ว่ามีญาติพี่น้องมาช่วยกันห้ามเอาไว้ และผู้ใหญ่บ้านได้มายึดเอาปืนไว้ ญาติพี่น้องได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ซึ่งได้แจ้งให้รถกู้ภัยมารีบนำตัวของนายสุทินที่ถูกยิง 3 นัด ส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ ซึ่งอาการล่าสุดจากการที่ตนได้โทรศัพท์สอบถาม น.ส.พัชราภรณ์ ลูกสาวของตนที่ไปกับรถกู้ภัยแล้ว แจ้งว่า นายสุทินอาการสาหัส แพทย์กำลังทำการผ่าตัด เพื่อทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว
นายวีระภาพ มือปืนรายนี้ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนคุยกับนายสุทินเรื่องที่นายสุทินอยากซื้อปืน โดยนายสุทิน บอกกับตนว่าต้องการซื้อปืนขนาด .22 ซึ่งตนก็บอกไปว่าปืนอะไรก็ยิงคนตายเหมือนกัน และตนคิดว่านายสุทินจะซื้อปืนมายิงตน ตนจึงได้ใช้ปืนพกสั้นขนาด .38 ที่พกติดตัวอยู่ ซึ่งซื้อมาจาก เฟสบุ๊คในราคา 10,000 บาทเศษ กระหน่ำยิง 6 นัด เข้าไปใส่นายสุทิน และกระสุนปืนถูกนายสุทิน 3 นัด ตนยอมรับว่าตนสูบกัญชาหนักมาก และมีอาการหลอนกัญชา และคิดว่านายสุทินจะซื้อปืนมายิงตน จึงได้ใช้ปืนของตัวเองยิงใส่นายสุทินก่อน
ทางด้าน นางสถาพร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 1 บ้านโพนค้อ ต.โพนค้อ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ของนายวีระภาพ มือปืนโหดรายนี้ กล่าวว่า นายสุทินซึ่งเป็นหลานเขยของตน จะรักนายวีระภาพลูกชายของตนมาก และมักจะพากันไปตกปลาเป็นประจำ แต่ว่านายวีระภาพจะสูบกัญชาหนักมาก เคยนำตัวไปบำบัดรักษาอาการติดยาที่ จ.อุบลราชธานี แต่ว่าอาการติดยายังไม่หายขาด โดยขณะเกิดเหตุตนไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาเห็นตอนช่วงที่นายวีระภาพลูกชายของตนใช้อาวุธปืนยิงใส่นายสุทินหลานเขยของตนจนล้มฟุบจมกองเลือดแล้ว ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอาการหลอนยาเสพติดของนายวีระภาพลูกชายของตนที่กลัวว่านายสุทินจะมาฆ่านั่นเอง
ร.ต.อ.หญิง ยลยุพา ลานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและจะได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับ นายวีระภาพ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งได้ให้การรับสารภาพแล้ว ส่วนจะตั้งข้อหาใดบ้างนั้น ตนจะต้องสรุปรวบรวมพยานหลักฐานก่อนแล้วจึงจะตั้งข้อกล่าวหากับนายวีระภาพต่อไป