สระบุรี-ชาวนาร้องโดนผู้นำชุมชนบวกราคาข้าวอีกเท่าตัวในโครงการของกรมการข้าวปี 66 บางรายถูกสวมสิทธิ์
ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร
วันที่ 29 กันยายน 2566 ด้วยกรมการข้าวมีโครงการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี กับเกษตรกร ในปี 2566 กรมการข้าว มุ่งมั่นผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ดีให้แก่เกษตรกรชาวนา ผ่านโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 66 ซึ่งกรมการข้าวได้ดำเนินการขายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ให้แก่ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการ ในราคาถูกและได้คุณภาพ แบ่งเป็น ข้าวขาวหอมมะลิ 105 กข 15 ราคากิโลกรัมละ 5 บาท ข้าวเหนียวและข้าวปทุมธานี 1 กิโลกรัมละ 4 บาท ข้าวขาว กิโลกรัมละ 3 บาท โดยให้ศูนย์ข้าวจำหน่ายพันธุ์ข้าวชนิดดีราคาถูกเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนผลิต แล้วจะมีผลกำไรมากขึ้น ซึ่งกรมการข้าวได้กำหนดมาตรการเหมือนกันทั่วประเทก ซึ่งพื้นที่จังหวัดสระบุรีจะขึ้นกับศูยน์เมล็ดพันธุ์ข้าวลพบุรี ซึ่งเมื่อเดือน กรกฎาคม 2566 ได้มีประชาชนตำบลห้วยบงจำนวนหนึ่งได้รับความเดือนร้อน เสียหาย จากการกระทำของผู้นำกลุ่มเกษตรกร ที่ได้รวบรวมรายชื่อเกษตรกรเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยเบื้อต้นแจ้งต่อเกษตรกรว่าพันธุ์ข้าว กข.31 ราคา กก.ละ 3 บาท ต่อมาเมื่อศูนย์ๆ ได้ส่งพันธุ์ข้าวมาตามสิทธิแต่ละคนแล้ว ปรากฎว่า ผู้นำกลุ่มฯ ได้คิดราคากับเกษตรกรเพิ่มในราคา กก.ละ 6 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าขนส่ง ต่อมาเกษตรกรมาทราบภายหลังจากเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอและข้อมูลจากกลุ่มเกษตรกรกลุ่มใกล้เคียง ทราบว่าราคาเพียง 3 บาทเท่านั้น และบางรายมีรายชื่อเข้าโครงการแต่เกษตรกรไม่ทราบ ว่าตนเองมีขื่ออยู่ได้อย่างไร ซึ่งไม่ได้แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งการการทำของผู้นำกลุ่มดังกล่าวซึ่งเป็นผู้นำชุมชน ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน แต่กลับมากอบโกยเอาผลประโยชน์ ทำให้ประชนได้รับความเสียหาย เดือนร้อน จึงประสงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับผู้นำชุมชนดังกล่าว และไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พ.ต.อ.เรืองฤทธิ์ มาลีการ ประธานชมรมปกป้องสิทธิประชาชน สระบุรี ได้รับทราบความเดือนร้อน เสียหายของประชาชน ได้ทำการตรวจสอบจนทราบจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวว่าไม่มีค่าขนส่งแต่อย่างใด จึงได้รวบรวมข้อมูลปัญหาความเดือนร้อนเสียหายของประชาชน ร้องเรียนต่อนายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทางอำเภอได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว โดยเบื้องต้นได้สอบผู้เสียหายทุกคนแล้ว เห็นว่าการตรวจสอบกรณีดังกล่าวล่วงเลยมากว่า 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีการแจ้งผลการดำเนินการแต่อย่างใด จึงได้มาติดตามผลการคำเนินการสอบสวนของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเฉลิมพระเกียรติ
นางประทุม ดวงสะอาด อายุ 72 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า ราคาที่เราจ่ายไปจริงกับราคาที่เราควรจะได้มันต่างกันเยอะ ซึ่งจริงๆเราต้องจ่ายเงิน 75 บาท แต่จ่ายไปครึ่งต่อครึ่ง คือ 150 บาท เพราะทางผู้นำเขาแจ้งว่า 3 บาท ตั้งแต่แรก แต่พอถึงวันที่ไปรับข้าว ทางเราได้เตรียมไปพอดี ปรากฎว่าเงินไม่พอ ต้องกลับไปเอาเงินมาจ่ายเพิ่มอีกเท่าตัว ตนได้สอบถามเขาแล้ว เขาบอกว่าเป็นค่าขนส่ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ได้แต่สงสัยในใจ จากนั้นตนจึงกลับบ้าน ซึ่งราคาของแต่ละกลุ่มเท่ากันหมด มีแต่กลุ่มเรากลุ่มเดียวที่ไม่เท่า ตนเองสั่งไป 18 กระสอบ เตรียมเงินไปพันกว่าบาท แต่เงินไม่พอ จึงเอาข้าวกลับบ้านไปก่อน แล้วเอาเงินไปจ่ายทีหลัง ขอใบเสร็จก็ไม่มี กลุ่มต.ห้วยบง ของตนมีคนที่เดือนร้อนจริงๆอยู่ 3-4 คน บางคนมีชื่อแต่ไม่ได้รับข้าว ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนจึงได้มาร้องศูนย์ดำรงค์ธรรมวันนี้ ทางผู้นำชุมชนก็ไม่ได้มาชี้แจ้งอะไรให้ฟัง เงียบไปเลย
ด้าน พ.ต.อ.เรืองฤทธิ์ มาลีการ ประธานชมรมปกป้องสิทธิประชาชน กล่าวว่า ตนเองเป็นประธานชมรมปกป้องสิทธิ์ประชาชนจังหวัดสระบุรี วันนี้ตนเองได้พาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาติดตามทวงถามข้อเรียกร้อง ที่ได้มาร้องเรียนต่อนายอำเภอที่ศูนย์ดำรงธรรม ในเรื่องการซื้อพันธุ์ข้าวของกรมการข้าว ซึ่งเป็นโครงการที่ดีสำหรับชาวนาและเกษตรกร ที่ทางกรมการข้าว ได้มีโครงการให้เกษตรกรลดต้นทุนในการผลิต โดยมาจำหน่ายให้กับประชาชน ในกิโลละ 3 บาท แต่ทางหัวหน้ากลุ่มที่เป็นผู้นำชุมชนของประชาชนที่เดือนร้อน ได้นำเอาข้าวที่เข้าโครงการ มาจำหน่ายให้กับเกษตรกรในราคาที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว คือ 6 บาท ซึ่งมันเป็นผลกระทบทำให้ต้นทุนของเขาเพิ่มขึ้น ทำให้วัตถุประสงค์ของโครงการข้าวไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลือประชาชน ตนจึงมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สมควร ที่จะต้องมาช่วยกันดูแล ในฐานที่ตนเป็นประชาชนและเป็นข้าราชการบำนาญ มองเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องไปให้ข้อคิดกับผู้นำกลุ่มอื่นๆ ว่าอย่ากระทำเช่นนี้ เพราะมันเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริต ซึ่งก็ได้มาร้องเรียนต่อนายอำเภอเพื่อให้ดำเนินการ ว่า มันเป็นความผิดอย่างไรหรือไม่ พื้นที่ตั้งอยู่ ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ ส่วนข้าวเป็นข้าวเปลือกพันธุ์ กข.31 ซึ่งทางกรมการข้าว เขามีโครงการและประกาศให้ทราบทั่วทั้งประเทศ ในราคา 3 บาท ส่วนราคาที่มาจำหน่ายเท่าตัว อย่าง 1 กระสอบ 25 โล ก็ 75 บาท ก็เพิ่มเป็น 150 บาท ถ้าตามท้องตลาดปกติ 15-20 บาท กระสอบนึง 25 โล 400 กว่าบาท เพราะถ้าเขาเข้าโครงการซื้อ แค่ 75 บาท และเป็นงบประมาณของแผ่นดิน ซึ่งเงินตรงนี้เป็นงบประมาณที่จะต้องไปซื้อข้าวจริง แต่เอามาลดให้ชาวบ้าน ส่วนเรื่องเงินเท่าที่ตนเองดูที่ศูนย์ โครงการของกลุ่มนี้มีประมาณ 18 คน ใช้เงินประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท แต่ได้เงินจากประชาชน ประมาณ 1หมื่นบาทนิดๆ จากเงิน 7หมื่นบาท คนที่ได้รับความเดือดร้อนมีหลายคน แต่มีคนที่กล้ามาร้องเพียงเท่านี้ มีบางคนไม่ได้ยื่นเข้าโครงการ แต่ก็มีชื่อ เป็นโครงการข้าวของปี2566 และเคยยื่นเรื่องต่อศูนย์ดำรงธรรมเมื่อวันที่ 8 ก.ย.66. มาวันนี้เพื่อมาทวงถาม เพราะเวลามันล่วงเลยเกินไป แต่ก็ได้คำตอบแค่ว่า ยังสอบไม่เสร็จ ซึ่งจริงๆได้สอบไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้ว แต่ก็ยังได้รับคำตอบว่ายังไม่เสร็จ ยังไม่ได้สรุป ส่วนผู้นำชุมชนเป็นใคร ตนขอปิดไว้ก่อน