อำนาจเจริญ-แม่แรงงานไทยในอิสราเอลร้องขอความปลอดภัยและทวงเงินเดือนให้ลูก
ภาพ/ข่าว:ทิพกร หวานอ่อน
เมื่อ 11 ตุลาคม 2566 นางสาวจุฬา วิทยาคาร รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ที่จังหวัดอำนาจเจริญมีแรงงานไปทำงานในประเทศอิสราเอลทั้งสิ้นจำนวน 79 คน เป็นหญิง 2 คน และทำงานอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุสู้รบกันจำนวน 39 คน ชึ่งทางทหารกำลังหาทางช่วยเหลือแรงงานไทยจากจังหวัดอำนาจเจริญจำนวน 39 คน ออกมาไว้ที่ปลอดภัยก่อนและจะประสานกับทางญาติของแรงงานที่มีความกังวนว่าลูกหลานของตนจะไม่ปลอดภัยอย่างใกล้ชิดชึ่งอำนาจเจริญมีทั้งสิ้นทั้ง 79 คน อยู่ประกอบด้วยอำเภอเมืองอำนาจเจริญ 21 คน หัวตะพาน 20 คน เสนางคนิคม 9 คน ชานุมาน 7 คน ประทุมราชวงศา 12 คน อำเภอพนา 7 และอำเภอลืออำนาจ 3 คน รวม 79 คนเป็นหญิง 2 คน ชาย 77 คน ชึ่งล่าสุดเช้านี้ทางทหารของอิสราเอลได้ไปรับตัวแรงงานไทยจำนวน 39 คน ที่อยู่ในจุดเสี่ยงที่มีการสู้รบกันอย่างหนักในขณะนี้มาไว้ในที่ปลอดแล้ว
ทางด้านนางอนงค์ ศรีบุญเรือง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9849 หมู่ที่ 1 บ้านหนองมะแซว ต.หนองมะแซว อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เปิดเผยที่บ้านทั้งน้ำตานองหน้ากับผู้สื่อข่าวว่าลูกชายของตนชื่อ ณัฐพล ศรีบุญเรือง อายุ 32 ปี เป็นบุตรคนที่ 2 มีพี่ชาย 1 คน ตนเป็นลูกฝาแฝดส่วนแฝดคู่กับตนเสียชีวิตไปแล้วณัฐพลมีน้องอีก 1 คน เป็นหญิงกำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กะว่าจะส่งให้น้องเรียนต่อพยาบาล แกให้สัญญากับน้องไว้ นัฐพลเป็นเสาหลักของครอบครัวเป็นคนหาเงินเลี้ยงครอบครัวคนเดียว พ่อก็มาเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ตนเป็นแม่ต้องอาศัยลูกณัฐพลซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้วหลังทราบข่าวว่าลูกชายของตนอยู่ในแดนอันตรายใกล้กับจุดสู้รบเพียง 2 กิโลเมตร ตนอยากให้ลูกของตนอยู่ในที่ปลอดภัย แต่จากการที่จัดหางานได้ลงมาที่บ้านของตนที่บ้านหรองทะแซว แล้วมาบอกข่าวดว่าตอนนี้ลูกชายของตนทางทหารได้เข้าไปพาตัวมาไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว ห่างจากจุดสู้รบไกลมากตนรู้สึกดีใจมาก ตนไม่อยากให้ลูกของตนกลับบ้านในช่วงนี้ เพราะเงินเพิ่งกู้ยืมเขามาแสนกว่าบาทยังไม่ได้ใช้หนี้เขาสักบาทเลย ไปได้เพียง 2-3 เดือนเท่านั้นก็เกิดเหตุสงครามขึ้นมา ส่วนลูกชายเองก็ยังไม่อยากกลับเช่นกัน อยากทำงานให้ครบสัญญาคือ 5 ปี แต่ต้องอยู่ในที่ปลอดภัย ให้ทางนายจ้างรับประกัน จะอยู่ให้ครบ 5 ปีตามสัญญาจึงจะกลับอำนาจเจริญ พอได้เงินมาใช้หนี้และเก็บไว้ใช้ เพราะครอบครัวเรายากจน พ่อก็เสียชีวิตแล้ว ตนก็เหลือลูกเพียง 2 คน ส่วนใหญ่ก็มีครอบครัวแล้ว ขอให้ทางการอิสราเอลและทางการของไทยดูแลแรงงานของคนไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลด้วย แล้วตนยังได้รับข่าวดีจากปากของลูกของตนเองว่าได้ออกมาอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว ตนก็ดีใจด้วย ทุกวันนี้ตนภาวนา สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนให้ลูกปลอดภัยจากสงครามในครั้งนี้ อีกอย่างที่ตนจะร้องขอในช่วงนี้ก็คือเงินเดือนเดือนนี้ของลูกชายยังไม่ได้รับเลย ขอให้ทางผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายจ้างที่ยังติดต่อไม่ได้ ขอให้ให้เงินเดือนลูกของตนได้นำมาใช้หนี้ทางบ้านด้วย ตนขอขอบคุณทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดอำนาจเจริญ และทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนจัดหางานจังหวัดนั้นได้เดินทางมาหาตนจนถึงบ้านเลยทีเดียว ตนรู้สึกอบอุ่นใจมาก แต่ตนขอยืนยันว่ายังไงก็ตามขอให้ลูกของตนทำงานในที่ปลอดภัยและจะอยู่จนครบสัญญา 5 ปี จึงจะกลับอำนาจเจริญเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่ยืมไปและนำมาสร้างฐานะตนเองและครอบครัวให้อยู่ดีกินดี