กาฬสินธุ์-ชิงเปรตอีสานคึกคัก..!!ชาวใต้ทำบุญใหญ่สืบสานประเพณีชิงเปรตอุทิศส่วนกุศล

ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดกาฬสินธุ์

พ่อเมืองกาฬสินธุ์เป็นประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษของสมาคมชาวปักษ์ใต้กาฬสินธุ์ในประเพณีชิงเปรตพร้อมนำชาวใต้ผลัดถิ่นร่วมพัฒนาจังหวัด

             ที่วัดประชานิยม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ สมาคมชาวปักษ์ใต้กาฬสินธุ์ จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ในประเพณีชิงเปรต (สารทชาวใต้) ซึ่งเป็นพิธีกรรมประเพณีพื้นถิ่นของชาวปักษ์ใต้ โดยมี นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธี มีนายประทีป ฤทธิกุล นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้กาฬสินธุ์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมคณะให้การต้อนรับ โดยมีชาวใต้กาฬสินธุ์กว่า 300 คน เข้าร่วมพิธี
             ในปีนี้ทางสมาคมชาวใต้ได้เปิดโอกาสให้ชาวใต้ที่อาศัยอยู่ในจ.กาฬสินธุ์ทั้ง 18 อำเภอ และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมอันเป็นสิริมงคล โดยการร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยตั้งร้านเปรตขนาดใหญ่ไว้ให้ลูกหลานได้นำของมงคลเข้าไปวางไว้เพื่ออุทิศให้กับบรรพบุรุษ โดยบรรยากาศ ในงานประเพณีคึกคักไม่แพ้กับทางใต้ โดยนำขนมลา ขนมพอง ขนมกง ขนมดีซำ และขนมบ้า ซึ่งเป็นของมงคลไปวางไว้ที่ร้านเปรต ก่อนจะเริ่มพิธีชิงเปรต ผู้ร่วมงานได้เขียนชื่อ นามสกุลของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เผาใส่กาลามังอลูมีเนียม จากนั้น กรวดน้ำด้วยบทสวด อิมินาใหญ่ หรือบทสวด กรวดน้ำใหญ่ เทน้ำลงในกระดาษที่เผาแล้ว ผวจ.กาฬสินธุ์ประธานในพิธี นำเทียนที่จุดไฟเผาเส้นด้ายสายสิญจน์ที่ผูกโยงประรำชิงเปรต จากนั้นบรรดาผู้ร่วมงานได้ตะลุยหยิบจับอาหาร ผลไม้ ที่เป็นมงคลอย่างคึกคัก ซึ่งของที่หยิบออกจากร้านเปรตจะถือว่าเป็นของมงคล บางคนนำไปรับประทานเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และพบเจอแต่สิ่งดีๆ บ้างนำไปไว้บูชา
             นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ประเพณีสราทเดือนสิบ หรือ ชิงเปรต เป็นประเพณีที่ลูกหลานชาวใต้ได้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูแด่บรรพบุรุษ อยู่ต่างถิ่นต้องกลับบ้านไปร่วมงานประเพณี แต่สำหรับของสามคชาวใต้ที่มีท่านประทีป ฤทธิกุล อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ปัจจุบันเป็นคนกาฬสินธุ์ ได้จัดงานประเพณีสราทเดือนสิบ หรือชิงเปรต ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ถือเป็นความโชคดีของลูกหลานชาวใต้ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้ร่วมประเพณีอันดีงามและเป็นประเพณีของคนใต้ที่ไม่ต้องเดินทางไกลเหมือนในอดีต ซึ่งอยากให้รักษาประเพณีอันดีงามนี้ให้มีต่อไปทุกปี