ชลบุรี-สลด..สิงห์รถพ่วง 18 ล้อ อกหักเมียทิ้งคว้าปืนไทยประดิษฐ์จ่อยิงขมับดับคารถ
ภาพ/ข่าว:นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ต.ค.66 ร.ต.ท.ปรัตถกร ศรีบุญเรือง รอง สว.สอบสวน สภ.แหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุมีคนใช้อาวุธปืน ยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในรถพ่วง 18 ล้อ ขณะจอดติดเครื่องยนต์ เหตุเกิดที่บริเวณลานจอด ท่าเรือเอ 1 เขตท่าเรือแหลมฉบัง ม.5 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรีบรายงานให้. พ.ต.อ.ปพนพัชร์ ใบยา ผกก.สภ.แหลมฉบัง ทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานชลบุรีที่ 2 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ มิตซูบิชิ รุ่นฟูโซ่ สีขาว ทะเบียน 72-6063 ระยอง ทะเบียนส่วนหาง 72-1724 ระยอง จอดติดเครื่องยนต์อยู่ ภายในรถฝั่งคนขับพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายสถาพร หุ้มไธสง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 274/1 ม.9 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในสภาพลำตัวเอียงตัวไปยังฝั่งผู้โดยสาร ที่บริเวณศีรษะพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย ใกล้กันพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายอภิสิทธิ์ ขุนภูมี อายุ 31 ปี เป็นผู้พบศพคนแรกให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้เห็นรถของผู้ตายจอดอยู่กลางลานจอดรถและเร่งเครื่องยนต์ค้างอยู่นาน จึงเข้าไปดูและเห็นรอยเลือดหยดไหลลงนองพื้น จึงเปิดประตูรถไปดูก็พบผู้ตายเสียชีวิต ก่อนที่จะแจ้งให้หัวหน้างานทราบพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และจากการสอบถาม นายภุชงค์ คำนอก อายุ 41 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองทราบว่า ผู้ตายมีปัญหาครอบครัว เนื่องจากผู้ตายจับได้ว่าแฟนเค้ามีชู้ และผู้ตายก็ได้ลาออกจากงานไป จนกระทั่งล่าสุดผู้ตายได้ขอกลับมาเข้ามาทำงานอีกครั้ง ซึ่งทำงานได้ยังไม่ถึงเดือนเลย และล่าสุดตนเองทราบว่าผู้ตายทะเลาะกันแฟนอีกครั้ง และเมื่อวานทางบริษัทไม่มีงานให้รถวิ่ง รถบรรทุกจึงจอดอยู่ตรงลาน แต่ตัวผู้ตายหายไปหลายชั่วโมง ตนเองคาดว่าผู้ตายน่าจะไปหาอาวุธปืนมา ก่อนที่จะตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะเครียดจากเหตุการณ์ทะเลาะกับแฟนสาว ก่อนที่จะตัดสินใจลงมือก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
