สุพรรณบุรี-เปิดยุทธการไกรสีห์สยบอิทธิพล จับผู้ค้ายารายใหญ่

ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี

          จากการเปิด “ปฏิบัติการ (Kick off) ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล จังหวัดสุพรรณบุรี ของกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสุพรรณบุรี ภายใต้การเปิดปฏิบัติหารของ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีโดย เมื่อเวลา 05.30 น. วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 66 ได้ระดมกำลังออกกวาดล้างตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิด ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ใน 6 เรื่องได้แก่ ยาเสพติด , การค้ามนุษย์ , การครอบครองและพกพาอาวุธปืน, การพนัน , การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล และ สถานบริการหรือและสถานบันเทิง โดยได้ร่วมกับทางอำเภอทุกแห่ง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกกวาดล้าง ตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
          ผลการปฏิบัติชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี หรือชุดไกรสีห์ และ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอศรีประจันต์ หรือชุด สิงหราช เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.สุพรรณบุรี ได้เปิดยุทธการไกรสีห์สยบอิทธิพล สามารถควบคุมตัวผู้เสพยาเสพติดได้และนำตัวมาขยายผล ทราว่าซื้อยาบ้ามาจากนายปูนามสมมุติ บ้านอยู่ อ.สามชุก เจ้าหน้าที่จึงตามไปตรวจค้นพบนายปู กำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่บนที่นอน เจ้าหน้าที่จึงปลุกลุกขึ้นมาสอบถาม และตรวจค้นในห้องนอน ก็พบซองพลาสติกสำหรับบรรจุยาบ้าจำนวนมากถูกซ่อนอยู่ในร่องอิฐบล็อค ฝาผนังห้องนอนเจ้าหน้าที่ใช้ค้อนทุบก็พบซองยาบ้าจำนวนมาก จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นายปู รับสารภาพว่าซองยาบ้าทั้งหมดเป็นของนายภูษิต เขียวไสว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.สามชุก เจ้าหน้าที่ จึงเดินทางไปตรวจค้น ที่บ้านภรรยาของนายภูษิต ในพื้นที่ หมู่ 3 อ. สามชุก พบยาบ้า 33 เม็ด ยาไอซ์ 4.68 กรัม อาวุธปืน บีบีกัน 1 กระบอก หลังจากนั้นทำการขยายผล ไปตรวจค้นที่บ้านของนายภูษิต ผลการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า ซ่อนในถังสีพลาสติก อยู่ในห้องน้ำ ในห่อสีดำ มีสัญลักษณ์แอปเปิ้ลและ ซองพลาสติกสีฟ้า จำนวน 124 ถุง รวม 24,800 เม็ด อาวุธปืนยาวอัดลมดัดแปลง 1 กระบอก รวมมูลค่ากว่า 496,000 บาท ซึ่งของกลางบางส่วน นายภูษิต ได้แอบซุกซ่อนในช่องอิฐบล็อคผนังบ้าน ต้องทำการทุบ นำของกลางออกมา ซึ่งนายภูษิต ให้การปฏิเสธอ้างว่ายาบ้าดังกล่าวไม่ใช่ของตนเอง เป็นของเพื่อนชื่อนายแอ๊ว นำมาฝากโดยให้ค่าจ้าง 500 บาท แต่ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่อยๆ นายภูษิต ได้ยอมรับ ว่าเสพ และมีการจำหน่ายเม็ดละ 20 บาท และจำหน่ายก่อนหน้าไป 2 เม็ด ซึ่งของที่ยังมีอยู่เยอะ เพราะของชุดนี้คุณภาพไม่ดี ขายไม่ออก และอยากขอโทษทุกคนที่ตนทำไม่ดี จากนั้น นายศรีธรรม ราชแก้ว ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อม พ.ต.อ.ยิ่งยส เขินอำนวย รอง ผบก.สุพรรณบุรี ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติ ตามแนวทางการสวนพบว่าจังหวัดสุพรรณบุรี นั้นเป็นพื้นที่พักยาเสพติดของขบวนการค้ายาเสพติดก่อนส่งต่อไปยังพื้นที่อื่น
          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายภูษิต มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่1ในลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้าเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยทั่วไป จากนั้นได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามชุก ดำเนินคดี และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปควบคุมตัวนายแอ๊ว ที่ถูกซัดทอดว่าเป็นเจ้าของยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาสอบขยายผล ในเบื้องต้นให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามชุกจึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบปัสสาวะเป็นสีม่วงจึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย สำหรับประวัตินายภูษิต ประกอบอาชีพรับจ้างเป็นช่างทาสีบ้าน เคยถูกจับคดีครองยาเสพติด จำคุก 2 ปีพ้นโทษมาได้ 2 ปีก็กลับมาเสพยาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติดอีกกระทั่งถูกจับดังกล่าว