ศรีสะเกษ-ฮือรุมกระทืบมือมีดแทงผิดตัว..!!เด็ก 17 ปีดับอนาถ ตั้งข้อหาหนักร่วมกันฆ่าผู้อื่น
ภาพ-ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี่คือภาพเหตุการณ์ขณะที่ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รรท.ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณ์ พรมดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ นำกำลังจนท.ตร.กก.สส.ภ. จว.ศรีสะเกษ และ จนท.ตร.สภ.น้ำเกลี้ยง ได้นำตัวนายธนพนธ์หรือปลื้ม สุขศรี อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 116 ม.7 ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษที่ จ 274/2566 ที่ได้ใช้อาวุธมีดก่อเหตุแทงนายจตุสิทธิ์ 3 แผล ในบ้านพักที่เกิดเหตุที่บ้านเขิน ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จนถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา เพื่อไปชี้จุดที่เกิดเหตุ จำลองเหตุการณ์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และค้นหาวัตถุพยานที่ใช้ในการก่อเหตุแทงนายจตุสิทธิ์ หรือโม จนเสียชีวิต โดยหลังจากที่ได้ทำแผนประกอบการฆ่าโหดและต่อมาผู้ต้องหาได้นำเอาดอกไม้และธูปมากราบขอขมาต่อพ่อแม่ของนายจตุสิทธิ์ หรือโม ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนด่าของบรรดาญาติพี่น้องของนายจตุสิทธิ์
ซึ่งปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ ตร.กำลังควบคุมตัวนายธนพนธ์ เพื่อไปขึ้นรถตู้ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของ นายจตุสิทธิ์ หรือโม หลายคนได้พากันกรูวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะใช้เท้าถีบและชกต่อยหวังที่จะรุมกระทืบ นายธนสิทธิ์ เหตุ การณ์ชุลมุนได้เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.กว่า 30 นาย ได้พยายามป้องกันไม่ให้ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา และได้รีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นไปบนรถตู้และนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนจุดที่ผู้ต้องหามาซื้อน้ำมันไปเติมใส่รถ จยย. จากนั้น นำตัวไปทำแผนจุดที่ผู้ต้องหานำอาวุธมีดฑูตสังหารไปขว้างทิ้งลงไปในหนองตะคราม ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้สวมชุดประดาน้ำลงไปงมหาเอามีดของกลางขึ้นมาได้แล้วเพื่อมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง กล่าวว่า พ.ต.อ.วิษณุ วัตถุ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมคดีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงผู้อื่นถึงแก่ความตายที่เขต อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ โดยได้มอบหมายให้ตน ได้บูรณาการกำลังร่วมกับ พ.ต.อ.กฤษณ์ พรมดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.น้ำเกลี้ยง สภ.ศรีรัตนะ สภ.ตูม และฝ่ายปกครองท้องถิ่นท้องที่ โดยร่วมกันสืบสวนหาข่าวและได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถสืบทราบได้ว่าผู้กระทำผิดคือใคร จากนั้นได้ไปขออนุมัติศาลจังหวุดศรีสะเกษเพื่อออกหมายจับ โดยเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.66) ประมาณ 17:00 เจ้าหน้าที่ ตร.สามารถจับกุมคนร้ายที่ใช้อาวุธมีดก่อเหตุได้คือ นายธนพนธ์ หรือปลื้ม สุขศรี อายุ 24 ปี ชาว ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ และ นายไก่ อายุ 15 ปี (นามสมมุติ) ซึ่งปรากฏว่า นายไก่ เป็นน้องชายสายโลหิตเดียวกันพ่อแม่เดียวกัน และยังเป็นเยาวชนเรียนหนังสืออยู่ที่สถานศึกษามีชื่อแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ร.ร.แห่งหนึ่งเขต ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง กล่าวต่อไปว่า จากการที่สอบถามนายไก่ (นามสมมุติ) ที่ไปด้วยได้ให้การว่า ได้เดินทางไปกับพี่ชายซึ่งเป็นผู้ต้องหารายนี้ไปเที่ยว ได้ไปจีบสาวหมู่บ้านข้างเคียงและได้ไปเจอกับกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นนี้ก็เป็นเยาวชนเหมือนกัน ได้จับกลุ่มคุยกันเล่นสนุกสนานตามประสาวัยรุ่นอยู่ ซึ่งฝ่ายคนร้ายเข้าใจผิดว่ามีการหัวเราะเยาะเย้ย จึงได้มีการพูดจาถากถางกันตามประสาวัยรุ่น จึงได้ร้องเอะอะโวยวายขึ้น กลุ่มวัยรุ่นจึงได้พากันแยกย้ายขับขี่รถ จยย.เพื่อกลับบ้านพัก คนร้ายจึงได้ขับขี่รถไล่กวดติดตามไปจนถึงบ้านที่เกิดเหตุ วัยรุ่นที่หลบหนีได้จอดรถและวิ่งเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือ จนร้ายได้จอดรถและวิ่งไล่กวดติดตามไปและใช้อาวุธมีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาด้วยแทงนายจตุสิทธิ์ ซึ่งเป็นญาติเจ้าของบ้าน นั่งเล่นอยู่ในบ้านได้รับบาดเจ็บ แล้วคนร้ายได้พากันหลบหนีไป
ต่อมานายจตุสิทธิ์ ถูกนำตัวส่ง รพ. และถึงแก่ความตายในภายหลัง ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหามีอาการเมาสุราเนื่องจากว่ามีการดื่มเหล้าขาวและเบียร์ ซึ่งพูดง่ายๆก็คือเป็นการแทงผิดตัว ส่วนเยาวชนที่วิ่งเข้าไปในบ้านนั้นได้วิ่งทะลุเลยหลังบ้านออกไป ซึ่งปรากฏว่าคนที่โดนแทงตายนี้เป็นญาติของเจ้าของบ้านซึ่งไม่เกี่ยวกันกับผู้ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นเรื่องของการเมาสุรา อาการคึกคะนองขาดความยับยั้งชั่งใจและจากการตรวจสอบการต้องโทษของผู้ต้องหารายนี้แล้วพบว่า คนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายและบุกรุกเคหสถาน เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2562 ของ สภ.น้ำเกลี้ยง พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหากับผู้ต้องหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ,ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป