สุพรรณบุรี-ตำรวจทางหลวงด่านช้างจับกระบะรับจ้างขน 12 ต่างด้าว ลักลอบเข้าเมือง
ภาพ-ข่าว:มงคล สว่างศรี/ภัทรพล พรมพัก
ร.ต.ท.ณัฐ ปิ่นกระจัน หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ร.ต.ท.ปณิธาน ใจชื้น รองสารวัตรป้องกันปราบปราม ( ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.) พร้อมกำลังจับกุม ผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ได้ผู้ต้องหา 14 คน จับได้ที่ทางหลวงหมายเลข 333 สาย ด่านช้าง-อู่ทอง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 72-73 (ขาเข้า อำเภออู่ทอง) หมู่ 4 ตำบลวังคัน อำเภอด่านช้าง
ร.ต.ท.ณัฐ ปิ่นกระจัน หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงด่านช้าง กล่าวว่าขณะกำลังขับรถออกตรวจพื้นที่ไปตามถนนสาย 333 บ้านไร่ด่านช้าง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 72-73 พบรถยนต์กระบะสี่ประตู สีบรอนซ์เทา ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นรีโว่ ทะเบียน 7 กภ 1165 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัย ลักษณะคล้ายรถบรรทุกน้ำหนักเกิน จึงพยายามส่งสัญญาณให้จอด เพื่อขอตรวจสอบแต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องหนี จึงวิทยุขอกำลังสนับสนุน ไล่ติดตามสุดท้ายรถคันดังกล่าวหนีไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ติดตามหยุดรถเอาไว้ได้ ตรวจสอบในรถพบว่ามีผู้โดยสารเป็นหญิงสาวสัญชาติเมียนมาร์ นั่งเบียดเสียดกันอยู่ที่เบาะหน้าและเบาะหลังรวม 12 คน
จึงคุมตัวนายศรัณย์ มั่นพัฒนาการ อายุ 29 ปี บ้านอยู่ ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก คนขับรถกระบะคันดังกล่าวพร้อมแรงงานชาวเมียนมาร์ทั้งหมดและรถกระบะ ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ด่านช้าง พร้อมประสาน ร.ต.อ.สันติ พงษ์สุวรรณ รอง สว.ตม.จว.สุพรรณบุรี นำกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมสอบสวน
จากการสอบสวนนายศรัณย์ ผู้ต้องหาให้การว่ารับจ้างขนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มาส่งให้เครือข่ายจุดนัดรับในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นจะมีรถมารับแรงงาน กระจายไปตามพื้นที่จังหวัดราชบุรี ปทุมธานี กรุงเทพ ตนได้ค่าจ้างนำพาหัวละ 2,000 บาท ส่วนแรงงานต่างด้าวจะเสียค่าหัวให้นายหน้าฝั่งพม่า หัวละ 20,000 บาทโดยจะมีรถสำรวจเส้นทางออกนำหน้า หากมีตำรวจตั้งด่านตรวจก็จะหลบหนีทัน ก่อนหน้านั้นจะใช้เส้นทางสายเอเชีย และสาย 340 แต่เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังกวดขันจับกุม จึงเปลี่ยนมาใช้เส้นทางสาย 333 บ้านไร่ – ด่านช้าง – อู่ทอง สุดท้ายก็ไม่รอด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายศรัณย์ ในข้อหาช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ 12 คนถูกแจ้งข้อหา เป็นบุคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวดำเนินการตามกฎหมาย และจะขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป