สุพรรณบุรี-นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวชมความงามของดอกไม้หลากหลายสายพันธ์
ภาพ-ข่าว:มงคล สว่างศรี /ภัทรพล พรมพัก
อดีตข้าราชการครูสาวใหญ่วัย 50 ปีพลิกชีวิตจากข้าราชการเป็นเกษตรกร เริ่มต้นจากการปลูกดาวเรือง ขายก่อนขยายเป็นไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ทุ่ง ไม้มงคล ผักสวนครัว และ ดอกไม้กินได้ สร้างรายได้เดือนละกว่า 100,000 – 1,000,000 บาท และยังจัดสรรพื้นที่เนรมิตเป็นสวนดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวพาครอบครัวเที่ยวชมความงามของดอกไม้หลากหลายสายพันธ์ ช่วงวันหยุดพักผ่อนมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมกันจำนวนมาก
ที่สวนดอกไม้ ดีดีฟลาวเวอร์ฟาร์ม เลขที่ 33/5 หมู่ 5 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี นักท่องเที่ยวฮือฮาตื่นตาตื่นใจกับแปลงดอกไม้รูปร่าง ผีเสื้อ ต่างพาครอบครัวเดินเที่ยวชมความงามของดอกไม้ภายในสวนพร้อมกับถ่ายรูปคู่กับดอกไม้ และเช็คอิน กันจำนวนมาก ซึ่งภายในสวนดอกไม้แห่งนี้มี ต้นไม้มากกว่า 100 ชนิดโดยมี ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ทุ่ง ไม้มงคล ผักสวนครัว และ ดอกไม้กินได้ กำลังออกดอกบานสะพรั่งอย่างสวยงาม ละลานตา ภายในสวนยังมีร้านกาแฟ เครื่องดื่ม อาหารตามสั่งไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวได้ดื่มกินแก้กระหายหิวด้วย
จากการสอบถาม คุณวาสนา ( ครูชมพู่ ) สวัสดิ์บุญ อายุ 50 ปีเจ้าของสวนและดีดีฟลาวเวอร์ฟาร์ม แห่งนี้เล่าว่า อดีตเคยรับราชการเป็นครู กทม.หลังจากแต่งงานมีครอบครัวก็ลาออกย้ายไปอยู่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านที่นั่นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ผักชี ไร่มะเขือเทศ แต่เราทำไร่ดาวเรือง เป็นเจ้าแรก เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วไม่มีคนนิยมทำกันแต่ที่เราทำเพราะว่าเป็นไม้สวยงาม จะทำให้ภูมิทัศน์ของเราสวยงามไปด้วย หลังจากที่เราทำก็ประสบความสำเร็จเพราะทั้งผลผลิตและราคานั้นดีมากๆ กลายเป็นจุดพลิกผันของคนแถวนั้นที่เห็นเราได้ดีก็พากันหันมาปลูกดาวเรืองตาม จากนั้นก็เป็นจุดเปลี่ยนของเรามาเรื่อยๆ เพราะได้ขยายพื้นที่ปลูกดอกไม้ขายจำนวนมาก ต่อมาก็มีบริษัทเมล็ดพันธุ์ ต่างๆเข้ามาดิล มาสอนวิธีการเพาะต้นกล้า
ลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชอบมากและแปลกใจเพราะไม้บางชนิดไม่น่าจะปลูกได้ในภาคกลาง ไม้บางชนิดเป็นไม้หนาวต้อปลูกทางภาคเหนืออย่างเดียวแต่ความจริงแล้วสายพันธุ์ไม้มีมากมายหลายชนิดสามารถปลูกได้เพียงแต่ว่าคนทำน้อยแต่ที่เราปลูกเพราะเราเพาะพันธุ์เอง ทำกล้าเองซึ่งผลตอบรับดีมาก ลูกค้านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวก็พากันแชร์ ในโซเชียลทำให้มีคนมาเที่ยวเยอะมาก ซึ่งดอกไม้เราจะมีหลายชนิดมากเช่น คอสมอส ซึ่งความจริงต้องปลูกในฤดูหนาวช่วงเดือนตุลา – มกราคม เพราะตัวนี้ใช้ความเย็นสะสมตาดอก จะออกในช่วงนั้น แล้วก็มีดับเบิ้ลโปรฟิวชั่น ตัวนี้ดอกจะดกและสวยมาก แล้วก็เรดซันเวียร์ ซึ่งเป็นไม้หนาวเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมี สร้อยไก่แดง แล้วก็มากาเร็ดญี่ปุ่น ที่ต้องใช้เวลาเลี้ยงถึง 4 เดือนแล้วต้องส่องไฟในเดือนที่สองตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนเพื่อให้ต้นสูงขึ้น และออกดกที่สวยงามแต่อยู่ได้แค่ 25 วัน ที่เราต้องทำเพราะต้องการโชว์สายพันธุ์ และลูกค้าก็จะได้ชมสายพันธุ์ ด้วยแต่ถ้าทั่วไปในเชิงพาณิชย์ น้อยคนที่จะทำเพราะราคาสูงไม่คุ้ม ส่วนลูกนักท่องเที่ยวที่ที่นี่แล้วส่วนใหญ่จะมาซ้ำชักชวนกันมาอีกเพราะถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่
ตนตั้งใจว่าจะเปิดให้ลูกค้านักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเพราะสายพันธูไม้ออกได้ทั้งปีตามฤดูกาล แต่ว่าตั้งแต่เปิดมาตนได้สัมผัสกับลูกค้าแล้วคาดว่าถ้าเข้าช่วงฤดูร้อนตั้งแตเดือนมีนา ไปจนถึงเดือนตุลา อากาศน่าจะร้อนมากแต่เราจะไม่ให้พื้นที่เราว่างเปล่าเราก็จะลงสายพันธุ์ไม้ โชว์สายพันธุ์ไม้ ให้ลูกค้าเข้าชมฟรีโดยที่เราไม่เก็บบัตร แต่ลูกค้าสามารถเข้ามานั่งดื่มกาแฟถ่ายรูปได้ ในช่วงประมาณ 2-3 เดือนเราจะจัดโปรฟรีให้ลูกค้า
หลังจากที่เราทำสวนดอกไม้เสร็จเพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากเปิดได้ไม่ถึงเดือนผลตอบรับดีมากเกินคาด ในส่วนของโรงเพาะเราทำมากว่า 10 ปีแล้ว ความจริงที่ทำสวนเพียงแค่ต้องการโชว์ไม้ดอกของเราแต่กลับได้รับความสนใจจากประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงต้องปรับกระบวนจัดโซนกาแฟ มีอาหารตามสั่งแบบบ้านๆแต่ก็จะเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ส่วนค่าบริการเข้ามาเที่ยวชมสวน ผู้ใหญ่ 50 บาทเด็ก 20 บาทบัตรเข้าชมของผู้ใหญ่ใช้เป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มได้ 10 บาท