ประจวบคีรีขันธ์-สาวแทบช็อกหนูตัวป่วนไม่รู้มาจากไหนขึ้นมาไต่ขาขณะขับรถ

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ 

          เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 12 พ.ย.66 ในเขตเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ นายพรหมสิงห์ สิงหเสนี อาสาสมัครอนุรักษ์พิทักษ์สิ่งแวดล้อมทะเลปราณบุรี ได้บันทึกภาพ ขณะ จนท.กำลังช่วยกันรื้อคอนโซนรถเก๋งเพื่อค้นหาหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบอร์นเงิน ทะเบียน กท-60465 ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของรถเป็นสุภาพสตรี (ไม่ประสงค์ออกนาม) เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีหลายวิธี ทั้งเคาะ ก้มหา เปิดกล่องเก็บของใต้คอนโซลรถออกมาก็เห็นหนูโผล่หน้าให้เห็น เวลาจะเข้าไปจับก็หลบหนีอยู่ตลอดเวลา หายเข้าไปข้างในเดินไปเดินมา ใช้เวลาอยู่นานกว่าครึ่ง ช.ม.มีจังหวะหนึ่งเจ้าหนูตัวป่วนหันหน้าเข้าข้างในแต่หางห้อยออกมาข้างออก จนท.จึงรีบมาจับหางหนูไว้ได้ ไว้แล้วค่อยๆดึงออกมาอย่างระมัดระวัง (จนเพื่อนตะโกนว่าอย่าทำหางขาดนะ) และสามารถจับเจ้าหนูตัวป่วนได้สำเสร็จ
          เจ้าของรถ เล่าให้ฟังว่า ขณะขับรถไปทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วระหว่างจะกลับบ้าน จู่ๆทันใดนั้นก็ไม่ทราบว่ามีหนูมาจากทางไหนขึ้นมาไต่ขาขณะขับรถอยู่เมื่อเห็นว่าเป็นหนู ตนตกใจมากรีบเหยียบเบรกทันที เมื่อรถหยุดได้ก็รีบเปิดประตูกระโดดออกมาจากรถทันที ความรู้สึกครั้งแรกที่รู้เป็นหนู ตกใจ ขยะแขยง รออยู่สักพักหนูก็ไม่มีท่าจะออกมา อีกทั้งจะให้เข้าไปในรถก็ไม่กล้ากลับเข้าไปข้างในเพราะกลัว จึงโทรแจ้ง จนท.ให้มาช่วยจับให้ พอจับได้ก็รู้สึกโล่งใจ ก็คิดว่าหนูคงจะหนีเข้ามาในรถตอนที่จอดรถแน่นอน
          สำหรับปัญหาที่เจ้าของรถยนต์ ต้องเผชิญโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ก็คือหนูเข้าห้องเครื่องยนต์หรือห้องโดยสาร ทำให้เกิดทั้งกลิ่นฉี่-อึหนู ที่นอกจากจะสร้างความสกปรกเป็นที่สะสมของเชื้อโรคและน่ารำคาญใจแล้ว อาจเจอปัญหาหนักอย่างหนูกัดสายไฟหรือสายเบรกอีกด้วย เรียกได้ว่าปวดหัวจนต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว ส่วนสาเหตุที่หนูเข้ามาอยู่ในรถ 1. ขยะและเศษอาหารภายในรถ 2. จอดรถรถในที่มีหนูชุกชุม 3. หนูเข้ามาหาที่อบอุ่น