ชลบุรี-ฉาวอีก พนักงานอะโกโก้ พร้อมพวก รุมชก นทท.อังกฤษเจ็บ แนะเพิ่มโทษผู้กระทำผิด
ชลบุรี-ฉาวอีก พนักงานอะโกโก้ พร้อมพวก รุมชก นทท.อังกฤษเจ็บ แนะเพิ่มโทษผู้กระทำผิด
ภาพ/ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ร.ต.อ.เชาวลิตร สุวรรณมณี รองสวป.สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอย แอลเคเมโทร บัวขาวพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบนักท่องเที่ยวอยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ทราบชื่อ MR.JACK DANIEL FITZMAURICE อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษ อยู่ในอาการบาดเจ็บ ปากแตก เลือดกำเดาไหล ถลอกตามร่างกาย มีเลือดไหลเลอะเสื้อผ้า อีกรายเป็นแฟนสาวทราบชื่อคือ น.ส.สุนารี ตุ้งประโคน อายุ 35 ปี มีบาดแผล ปากแตก ปูดบวมที่ใบหน้า อยู่ในอาการหวาดกลัว ไม่กล้าเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับคนผิด ทั้งสองจึงยอมเดินทางโดยขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ไป
สอบถามผู้บาดเจ็บ น.ส.สุนารี ทราบว่ามีปากเสียงกับผู้หญิงในร้าน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ตนเองจึงโทรเรียกสามีชาวต่างชาติมาช่วย แต่ก็เกิดเหตุการชุลมุนขึ้นอีก โดยมีกลุ่มคนนับสิบคนเตะต่อย จนแฟนหนุ่มและตนเองได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ เพราะไม่อยากมีปัญหากับกลุ่มคนเหล่านี้ เกรงว่าจะได้รับอันตราย
ด้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนแรกเป็นเรื่องระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง คือผู้บาดเจ็บกับพนักงานอะโกโก้ โดยฝ่ายผู้บาดเจ็บเป็นฝ่ายเริ่มก่อน กระทั่งผู้หญิงเรียกชาวต่างชาติเข้ามาช่วย จนเกิดชุลมุนกันทำให้พนักงานในร้านอะโกโก้ดังกล่าว ไม่พอใจพากันกรูเข้ามาช่วย บางคนห้ามแต่บางคนกลับลงมือทำร้ายด้วยจนต่างชาติได้รับบาดเจ็บ และทำให้ป้ายร้านข้างเคียงได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้บางรายยังเล่าอีกว่าผู้บาดเจ็บพยายามวิ่งหนีแล้ว แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงวิ่งไล่ทำร้าย โดยไม่แคร์สายตานักท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณนั้น รวมไปถึงไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแม้แต่น้อย
เบื้องต้น ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายเดินทางเข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ.ณัชพล แสงสี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแส จากพยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด ในการติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดมา สอบปากคำ เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ก่อนจะดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา เป็นอย่างมาก ทั้งที่ทางภาครัฐ มีนโยบายขยายเวลาให้เปิดได้ถึง 04.00 น. เพื่อผลักดันระบบเศรษฐิจให้ดีขึ้น แต่กลับเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนี้ขึ้น จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ รวมถึงเพิ่มบทลงโทษกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานรวมถึงร้าน ที่เกิดเหตุด้วย