ปราจีนบุรี-นศท. 3 จังหวัด กว่า 1,356 นาย ร่วมพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามนักศึกษาวิชาทหาร

ปราจีนบุรี-นศท. 3 จังหวัด กว่า 1,356 นาย ร่วมพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามนักศึกษาวิชาทหาร

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

          วันที่ 8 ธันวาคม 2566 พันเอก เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) ค่ายจักรพงษ์ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นประธานพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามนักศึกษาวิชาทหาร ประจำปีการศึกษา 2566 ณ สนามบินมณฑลทหารบกที่ 12 เนื่องในวันนักศึกษาวิชาทหาร มีนักศึกษาวิชาทหาร จำนวน 1,353 นาย จากสถานศึกษารวม 108 แห่งใน 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี, ,ฉะเชิงเทรา, นครนายก ตั้งแต่ชั้นปืที่1-5 เข้าร่วมพิธี
          รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 กล่าวว่า พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารประจำปี การศึกษา 2566 ด้วยในวันที่ 8 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันนักศึกษาวิชาทหาร หน่วย บัญชาการรักษาดินแดน กำหนดให้จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารประจำปีการศึกษา 2566 เพื่อเป็นเกียรติและขวัญกำลังใจแก่นักศึกษาวิชาทหารซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตแก่ประเทศชาติ และ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เมื่อกองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก ตามจังหวัดชายทะเลของไทย และยุวชนทหาร ได้เข้าสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนคนไทย ตำรวจสนาม และทหารประจำการ อย่างหนักหน่วงจนการรบยุติลง ทำให้เกิดผลดีต่อประเทศชาติ อีกทั้ง เพื่อให้นักศึกษาวิชาทหารได้แสดงออกถึงสมรรถภาพ ระเบียบวินัย มีโอกาสพบปะ และรับฟังโอวาทจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูง รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ของนักศึกษาวิชาทหาร และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกิจกรรม เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ นักศึกษาวิชาทหารทุกนายคือกำลังพลสำรองของกองทัพไทย เป็นส่วนสำคัญในความพร้อมรบ อันเป็นหลักประกันต่อความมั่นคงของชาติ นักศึกษาวิชาทหารทุกนายต้องตระหนักเสมอว่าต้องมีความเสียสละ มีระเบียบวินัย มีความเข้มแข็ง และความอดทน ให้ปรากฏต่อสายตาพี่น้องประชาชน ตามที่นักศึกษาวิชาทหารได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี เพื่อเป็นกระบวนการเตรียมกำลังทางทหาร เมื่อสถานการณ์จำเป็นต่อการป้องกันประเทศต่อไป และ กล่าวต่อไปว่า ขอให้นักศึกษาวิชาทหารเป็นเยาวชนที่ดีของชาติและต้องตระหนักรู้ในการที่จะดำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถึงแม้ว่าจะศึกษาวิชาทหาร ครบตามหลักสูตรแล้วจะทำให้นักศึกษาวิชาทหารได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ แต่จะต้องระลึกไว้เสมอว่ายังมีสถานภาพเป็นกำลังพลสำรองของกองทัพ เมื่อถึงเวลาหรือสถานการณ์อันสมควร สืบไป
          ด้าน นายปณิธิ, นายปรเมศ , นายราม นักศึกษาวิชาทหาร กล่าวว่า พวกตนเป็นเพื่อนกันทั้ง 3 คน มาจากโรงเรียนเดียวกัน แต่ต่างชั้นการศึกษากัน เกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร หรือไม่ในอนาคตนั้น ความคิดเห็น สมควรสมัครใจดีกว่า เพราะบางคนต้องเสียอนาคต มีหน้าที่การงาน ไว้ สำหรับคนที่ไม่มีงานทำ แล้ว สมัครใจเข้าไปเป็นทหารดีกว่า

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!