สระบุรี-ชายอ้างตัวเป็นเจ้าหนี้เจ๊เอ๋ รับเคยเป็นอดีตนายทุนให้เจ๊เอ๋ปล่อยดอก ลั่นเป็นหนี้ 6 แสน รวยแล้วเอามาใช้หนี้บ้าง เจ๊เอ๋โต้กลับพร้อมชนขู่ฟ้องกลับ

ภาพ-ข่าว:สมภพ พิมมะศร

                วันที่ 14 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนาย สมหวัง สวัสดิทัศน์ ซึ่งติดต่อให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ว่าตนเองเป็นเจ้าหนี้ของ เจ๊เอ๋ หรือ นางสาว ณัฐวรินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าแม่เงินกู้เน็ตไอดอลคนดัง ที่ออกมาโจมตีมาตรการปราบปรามเงินกู้นอกระบบ ว่าเป็นผู้ได้รับควาทเสียหายจากมาตรการของรัฐบาล จนล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมานั้น โดยนายสมหวังได้พูดถึงกรณีดังกล่าวว่าเจ๊เอ๋ไปว่ารัฐบาลทำไม ปล่อยให้เค้าทำงานไป ตัวเค้าเองต่างหากที่เป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการที่เจ๊เอ๋เอาเงินเค้าไปปล่อยให้แม่ค้าในตลาดสระบุรีกู้ นอกจากเงินกู้ ยังมีเอาทองให้เค้าผ่อน นายสมหวังยังบอกอีกว่า ที่เจ๊เอ๋มีได้ทุกวันนี้เพราะตนเอง โดยเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 59 รู้จักกันเพราะหลานของนายสมหวังเป็นเพื่อนกับลูกเค้า เรียนห้องเดียวกัน โดยนายสมหวังมีเอกสารหลักฐานการโอนเงิน รวมไปถึงสเตทเม้นจากธนาคาร และสมุดจดรายขื่อลูกหนี้ที่เจ๊เอ๋เอาเงินไปปล่อยกู้ ซึ่งเป็นลายมือของเจ๊เอ๋เอง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเพราะอะไรถึงออกมาพูดในวันนี้ แล้วไม่กลัวโดนเจ๊เอ๋จะฟ้องเอาหรืออย่างไร
                นายสมหวัง เล่าว่า ผมได้ดูข่าวเห็นเจ๊เอ๋ออกมาประกาศว่า ตัวเองเป็นเจ้าหนี้ ที่กำลังเดือดร้อนจากมาตรการของรัฐบาล ซึ่งตนเองก็เป็นเจ้าหนี้ของเขาตั้งแต่ปี 59 เห็นแล้วมันอัดอั้นจึงได้ออกมาพูดว่า เอาเงินมาใช้หนี้ตนบ้าง เป็นเงิน 6แสนบาท ตนไม่กลัวโดนฟ้อง เพราะมีหลักฐานครบ ซึ่งอันนี้เป็นเอกสารที่เจ็เอ๋เอาเงินของตนไปปล่อยกู้ เป็นลายมือของเจ๊เอ๋เอง ซึ่งในสมุดเล่มนี้ยอดน่าจะเป็นล้าน และยังมีหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีภรรยาตน ไปยัง น.ส.ณํฐฐารินทร์ ศรีโสภณ หรือ คุณเอ๋ โอนแต่ละครั้งเป็นหลักหมื่นขึ้นไป โอนบ่อยมาก โอนสูงสุดวันนึง 200,000 – 300,000 บาท เป็นการปล่อยเงินกู้ 3 – 7 วัน และการผ่อนทอง มีหลายอย่างหลายที่มาก

                ตนเองคิดว่า ที่เขามีได้ทุกวันนี้ เพราะเงินของตนตน ซึ่งตนมั่นใจ เพราะว่าตั้งแต่แรกที่เขาเข้ามาหา และเอาเงินกู้ของตนไป เขาไม่มีอะไรเลย บ้านก็ผ่อนอยู่ รถยนต์ก็ยังไม่มีเลย ซึ่งเขาใช้วิธีไปติดต่อที่ตลาดล้งมา เค้าบอกมีผู้พันเขาสงสาร ให้ไปปล่อยดอกในกรมทหารด้วย และเคยไปเก็บขยะที่โรงสี และเก็บขวดน้ำมาขาย ซึ่งตนก็สงสารเขา จึงได้รู้จักกันและติดต่อกันมา แล้วค่อยๆปล่อยเงินกู้ และเรียกนับถือเราว่าเป็น พ่อแม่ ตอนหลังเขาได้พาสามีเข้ามาไปที่โรงเรียนและให้สามีมายืมเงินเราเอาไปปล่อยที่โรงงาน เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท ซึ่งเขาบอกว่า สามีเป็นหัวหน้าช่าง และบอกว่า สามีเป็นคนต่างประเทศ พ่อแม่ไม่รัก พูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ ตนก็สงสารเขา ส่วนเงิน 1 แสนบาท เขาส่งมาได้ 3 เดือนและก็หายไปเลย

                  เขาเอาเงินของตนเองไปทั้งหมด 5 ล้านกว่าบาท ส่งคืนมา 3 ล้านกว่า พอทวงถามเขาก็ไม่เอามาคืนเลย โกรธ ตัดความสัมพันธ์ ด่าทอต่อว่า และไม่นำมาชำระหนีเลย ซึ่งตอนนี้เขาเป็นหนี้ตนอยู่ 6 แสนบาท ไม่คืนเลย จนตนต้องเป็นหนี้เป็นสิน และเขาก็เอาไปต่อยอดทำให้รวยขึ้นมา ทำนู้นนี่สร้างภาพให้รวยขึ้นมา เหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าของเงิน เป็นเจ้าหนี้คนเดียว ไม่หันกลับมามองตนเลย แตกต่างกับตอนแรก ซึ่งตอนแรกให้สงสารนู่นนี่นั่น วันเกิดลูกชายเขา ตนก็ไปจัดให้ วัดเกิดสามีตนก็จัดให้ ตนให้เลสทองคำหลวงพ่อรวยไป 1 เส้น ตนโคตรโมโหเลย คนแบบนี้ตนเรียกว่า โคตรเนรคุณเลย และตนอยากจะพูดว่า (น้ำเสียงจะร้องไห้) ไม่ใช่อีเจ๊เอ๋หลอก แต่เป็นอีเหี้ย โคตรเหี้ยเลย ตอนนี้มึงรวยแล้ว มึงเอาเงินมาคืนกู มึงอะสร้างภาพ และมึงอย่าไปทำคนอื่นเขาอีก มึงหยุดได้แล้ว มึงว่ารัฐบาล มึงมีสิทธิ์อะไร มึงดูตัวมึงเองบ้าง ตนเองไม่กลัวเขาฟ้อง อยากให้มันฟ้องเลย ถ้ามึงแน่จริงมึงอย่ายกฟ้องกู เพราะมึงเคยฟ้องกู แล้วมึงยกฟ้องทำไม มึงไม่แน่จริง ตนเองแค้นมากเพราะรอวันนี้มานานแล้ว มึงอย่าเหิมเกริมนัก
                 ตนเองเป็นผู้ให้เขามาโดยตลอด ลูกชายเขาฝนตกฟ้าร้อง ตนเองกับภรรยาก็ไปรับมาจากโรงเรียนมาเลี้ยงที่บ้าน พวกรูปถ่ายตนมีหมด ไปเที่ยวที่ไหนตนก็เป็นคนออกค่าใช้จ่าย ตนเองดูแลตลอด ลูกสาวเขาไม่สบายเข้าโรงพยาบาล ตนไปเยี่ยมตลอด ซึ่งตัวเขาเองก็เหมือนกัน โกหกตนว่าป่วย ตนก็ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลมิตรภาพ แล้วแฟนเขาบอกว่าส่งตัว เขาบอกว่าไม่สบาย ทำงานให้ตนหนักเกินไป บอกว่าไปปล่อยเงินกู้แล้วเก็บไม่ได้ ทำเป็นเครียดทำเป็นอะไร พอตนไปติดต่อที่โรงพยาบาล ไม่เห็นมีใครซักคนนึง แม่งโกหกตนชัดๆ ครอบครัวตนไปรอ แต่ก็ไม่เห็นมีใครไป ซึ่งมันไม่โผล่หัวไปเลย และมันก็โกหกว่าไปโรงพยาบาล ขอใบส่งตัวไปแล้ว ไม่มีเลย มันไม่ได้ ไป โคตรตอแหลเลย ตอนนั้นตนมองครอบครัวเขาแล้ว รู้สึกรัก เขาแต่งตัวมอซอมากเลย หน้าตาเขาเหมือนพวกซาเล้งเลย ตนยังมีรูปถ่ายอยู่เลย ลูกเขาก็ยังไม่จบอาชีวะเลย เขาเคยเล่าให้ฟังว่า เคยเก็บของเก่าขาย พ่อแม่ไม่มี ไม่รู้ใครขอมาเลี้ยง เปลี่ยนนามสกุล พอรู้เรื่องชีวิตเขา ตนก็เกิดความสงสารเขามากเลย อยากช่วยเหลือ และตอนที่ไปปล่อยเงินกู้ ตนก็บอกว่า อย่าไปเอาลูกค้ามากนะ สงสารเขา เขาก็บอกว่า ไม่เอาเยอะหรอก เพราะลูกค้าเป็นคนดี จะได้ไม่ต้องไปเอาไอบัง เพราะไอบังมันแพง ร้อยละ 30 -40 ต่อวัน มาเอากับเขา ถือว่าได้บุญแล้ว ซึ่งมันก็กล่อมไปเรื่อย เพราะเราไม่รู้และไม่เคยไปตลาดเลย ไม่เคยไปดูเลยว่ามันไปปล่อยร้านค้าที่ไหนบ้าง ร้านฟักทองที่อยู่ล้ง เจ้าที่เขาซื้อผักซื้ออะไร เขาก็ไปปล่อยทั่ว
                  ตนจึงได้บอกว่า งั้นพาตนไปเก็บสิ ก่อนที่จะเกิดเรื่องที่มันจะโกงและหักดิบเรา แต่มันก็ไม่พาไป อ้างนู้นนี่นั่น เพราะลูกค้าไม่เอามาให้บ้าง และตำรวจกวนบ้างอะไรแบบนี้ แต่เขาก็อ้างไปทั่ว นิสัยไม่ดี มันจะโกงเรา จะเอาเงินเราอ่ะ มันบอกตำรวจไปค้นบ้านมันหลายเที่ยว เลยให้เราทำลายหลักฐานอย่างนู้นอย่างนี่ และพักหลังก็โบ้ยบ้ายมาให้เราว่า เป็นนายทุน ไปปล่อยหนี้เกินกำหนด ซึ่งจะให้ตนกลัวและลบหลักฐานทิ้ง และสิ่งที่เขาอ้างมาไม่น่าจะเป็นความจริง แล้วยังสร้างภาพทำบุญนู้นนั่นนี่ เหมือนกับปล่อยเงินกู้แล้วโหดีเหมือนกับช่วยเหลือคนจน ซื้อนู้นซื้อนี่ไปแจก อีเหี้ยกูเป็นเจ้าหนี้ มึงไม่เอามาคืนกู ไปถ่ายรูปทำบุญนั่นนี่ ไปบริจาคไฟไหม้ที่โรงเรียนหนองแค มันก็บอกไปบริจาคให้เขา ตนก็ยังบอกเขาว่า อะไรคุณรวยขนาดนั้นเหรอ คุณยังเอาเงินผมไปปล่อยเงินกู้เลย คุณไปรับรองเด็กโรงเรียนที่โดนไฟไหม้แถวหนองแค ได้ยังไงอ่ะคุณรวยขนาดนั้นเลยเหรอ คุณต้องไปส่งเสียเขาอ่ะ ซึ่งตนยังโมโหอยู่เลยว่ามันใช่หรือเปล่า และช่วงหลังตนได้แคปหลักฐานการโอนเงินไว้ เพราะเห็นท่าไม่ค่อยดี แล้วตนก็บอกกับแฟนว่าอย่าไปให้มันเยอะมาก เพราะที่มันเอาไปๆ เงินก็ไปอยู่กับเขา 4-5 แสนทุกเดือน ของเก่ายังไม่หมดเลยมาตัดอีกแล้ว เอาไปหมุนเวียนแต่ละวันแต่ละเดือน ซึ่งเป็นเงินตนทั้งนั้น สุดท้ายตนอยากฝากบอกเจ๊เอ๋ ว่า อยากไปทำกับคนอื่นอีกเลย แค่นี้มันก็รวยพอแล้ว มึงไม่เอามาคืนกูบ้าง มึงจบได้แล้ว ไม่ใช่ไปสร้างภาพว่ามึงเป็นเจ้าหนี้ กูนี่แหละเจ้าหนี้รายแรกของมึง ส่วนรัฐบาล มึงไปว่าอะไรเขา ซึ่งรัฐบาลเขาก็บริหารงานของเขาไป มึงมีสิทธิ์อะไรไปว่าเขา มึงเป็นเจ้าหนี้คนเดียวเหรอและเป็นจริงหรือเปล่า มึงหาว่าคนนู้นกลั่นแกล้ง มึงอะสร้างภาพ คนนู้นคนนี้เขากลั่นแกล้งมึง เขาค้นไม่เจอ เพราะมึงเอาไปซ่อนหมดแล้ว มึงระวังตัวให้ดี
                    ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ๊เอ๋ เพื่อสอบถามถึงกรณีที่นายสมหวังออกมาบอกว่าเจ๊เอ๋เป็นหนี้เค้า โกงเงินเค้าไปจำนวน 6 แสนบาท เรื่องนี้เจ๊เอ๋ว่าอย่างไร จริงหรือไม่ โดยให้ข้อมูลทางโทรศัพท์  เจ๊เอ๋ ชี้แจงให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ต้องบอกก่อนนะว่าเป็นใคร จะบอกให้ว่าเรื่องนี้ มันมีสมัยหนึ่งที่เจ๊กำลังพึ่งเริ่มเดิน แล้วเขาก็มาถามว่าเจ๊ทำธุรกิจอะไร เสร็จแล้วเขามาร่วมธุรกิจกับเรา ด้วยเอกสารเงิน 1แสน แล้วเรื่องนี้ถึงศาลเป็นที่สิ้นสุดแล้ว เจ๊ชนะ แล้วพอเจ๊ฟ้องกลับ ด้วยความที่เขาแก่ เขาขอโทษ เป็นผู้ชายใช่มั้ย เจ๊จะฟ้องกลับนะ ฝากบอกเขาด้วย คุณออกมาฉันไม่ว่า แต่ถ้าพลาดขึ้นมาฉันทิ่มกลับยับเลยนะ ถามว่าเงิน 1 แสนของเขา ฉันทำให้เขาไปกี่แสน เขาหนักกว่าฉันอีก คนอย่างเอ๋คุยได้หมด เอกสารมี หมายศาลเรียบร้อย ขึ้นศาลกัน 3 ปีเต็มๆ ซึ่งฉันโดนกระทำมา และฉันก็สู้กลับ แล้วฉันฟ้องกลับ สุดท้ายไม่มีอะไร เอกสารหลักฐาน ล่าสุดไปออกรายการโหนกระแสอีก ถ้าฉันไป ซึ่งมันจบไปแล้ว แต่ถ้าอยากจะลื้อมาก็ได้นะ กล้าหรือเปล่า
                    แค่เงิน 1 แสน ฉันทำกลับไปให้ตั้งกี่ล้าน ซึ่งเขาหนักกว่าฉันนะ ฉันให้ข้อมูลเลย เงิน 1 หมื่นบาท ต้องคืนเขาวันละ 1100 บาท จำนวน 10 วัน ร้อยละเท่าไหร่คิดดู ตอนนั้นเรามีลูกค้าอยู่ในมือ แต่เราไม่มีเงิน เขาเป็นคนเสนอมา ว่า 1 แสนบาท คืนวันละ 11,000 บาท 10 วันจบ ดอกเท่าไหร่ เขาให้มาเท่าไหร่ ตนก็เก็บให้เขาเท่านั้น ซึ่งเขาคุยกันเองด้วย ตนให้ลูกหนี้คุยกับเขาเองเลย เพราะเขาเป็นเจ้าของเงิน เขาก็บอกว่า แม่น้องไบร์ทเก็บให้ด้วย หลานของเขาเป็นเพื่อนกับลูกชาย ซึ่งหลานเขาเรียนอยู่รร.ยุวะ ตนเองไม่อยากเล่าแล้ว ให้มันเป็นข่าวขึ้นมาเลย เดี๋ยวฉันจัดเอง เอกสารพร้อม เพราะมันชนะมาแล้ว โดยที่ฉันเสียค่าทนายเท่าไหร่ ศาลยังมองเลยว่าแจ้งความเท็จ ศาลเป็นคนพูดเองเลย ตนเองเคยฟ้องกลับไปก็สู้ไม่ได้อีก แพ้อีก ศาลบอกให้หยุดยังไม่อยากจะหยุดเลย แล้วที่เขาบอกว่า ฉันมีได้ทุกวันนี้เพราะเขา ส้นตีนค่ะ มันกล้าพูดดิ วันที่ออกโหนกระแสคุณหนุ่มซัดเอาจนหงายไม่เห็นเหรอ ไอกระเป๋าที่หิ้วไปมีอะไรที่เคยเอามาเปิด เอามาเปิดสิ ฉันไม่มีอะไรเลย มีหมายศาลใบเดียวที่ยื่นให้ อยากได้ไหมหละ เดี๋ยวฉันจะขอทนายให้ พอฉันออกข่าวอะไรปุ๊บแล้วดัง อยากมาเกาะดัง แก่แล้วโง่อ่ะ เพื่อต้องการอะไรเรื่องแบบนี้มันดีเหรอ ฉันไม่อะไรหรอก แต่เรื่องนี้ถ้าอยากงัดกับฉันก็ได้นะ มีหลักฐาน อยากงัดกันได้เลย ถ้าไม่อยากอยู่อย่างสบาย อยากจะแบบเร้าร้อนอย่างฉันก็ได้นะมาสิ แล้วจะมาบอกว่าฉันมีทุกวันนี้ได้เพราะอะไร ไอ้เหี้ยกูให้มึงจนกูขายทอง ขายทุกสิ่งอย่างใช้หนี้แทน และลูกหนี้ทุกวันนี้มันยังใช้ที่ใช้มันยังไม่หมด แต่ฉันใช้หนี้มันหมดไปแล้ว

                        ส่วนเงิน 6 แสนที่เขาอ้างถึง ไม่เป็นความจริง เอกสารก็มีแค่ 1แสนด้วย ถ้ามี 6 แสนทำไมมันไม่ฟ้อง 6แสนอะ มาฟ้องฉัน 1 แสน แล้วฉันทำเงินให้กลับไปเท่าไหร่ ตรวจสอบเงินในบัญชีมันสิ แล้ววันนั้นรายการคุณหนุ่ม มันยื่นทนายไพศาล ทำไมไม่นั่นหละ ซัดกันดิ ทำไมเงียบกลับไปล่ะ อย่ามาเอาเรื่องเล็กๆน้อยไม่เป็นเรื่องมาใส่ในต่อมประสาทเลยไม่ชอบ เดี๋ยวฉันเข้าสภาจะฟาดเรื่องนี้อีก ถ้ามันอยากจะรู้นัก มันอะหนักเลยนะ ให้มันไปตั้งสติ เมื่อก่อนเขาไม่ใช่นายทุน ซึ่งฉันก็ปล่อยของฉัน แต่ฉันลูกค้าเยอะและไม่มีเงิน เขาก็มาขอว่า แม่ไบร์ททำอะไร ผมทำงานมาเกษียณนู่นนี่นั่น ผมมีเงินอยู่ก้อนนึงนู่นนี่นั่น ซึ่งก็มาทำเอกสารอยู่ที่บ้านเนี่ย กล้องวงจรปิดก็มี ลูกชายมันกับลูกสาวฉันก็เพื่อนกัน เขาก็เซ็นต์ค้ำทุกสิ่งทุกอย่างหมดกัน อย่าพูดเลยฉันใช้หนี้เกินยอดไปเป็นเท่าไหร่ คิดดูสิใช้หนี้วันละ 8 หมื่น มันเยอะขนาดไหน ดอกทบต้น ต้นทบดอก ยิ่งกว่าดอกลอยอีก พอมาวันนึงฉันใช้หนี้หมดเคลียร์หมด แล้วฉันก็ทำของฉันเอง โกรธเคือง ฉันขายทุเรียนปีนึงเท่าไหร่ จะโกรธเคืองก็มาสิ ซึ่งเขาโกรธที่เจ๊ไม่ทำให้เขา ซึ่งอาชีพของเรามันค้าขายอยู่แล้ว พอเราขายดีก็มีเงินนู้นนี่นั่น เราก็ปล่อย เขาก็โกรธเคือง ทำไมศาลบอกให้หยุดไม่หยุด ฉันไม่อยากจะทำหรอกจริงๆ เห็นแก่แล้วยกมือไหว้ขอโทษ ถ้าในศาลมีรูปได้ก็ดี คนแก่ยกมือไหว้ขอโทษฉัน ซึ่งฉันไม่ใช่คนเหี้ย จบคือจบ แต่ไม่ยอมจบ เดี๋ยวงัดเรื่องนี้ขึ้นมาเดี๋ยวจะร้อง ฉันจะฟ้องกลับ