สมุทรปราการ-ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยงจนเสียชีวิตส่งศาล ถูกกลุ่มเพื่อนของแม่น้องรุมทำร้าย
ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
จากกรณี นางสาวเเพรวา โล่เพชร อายุ 19 ปี ร้องขอความเป็นธรรม เด็กหญิง ธนพร (หรือน้องโฟกัส) พลอยแก้ว อายุ 2 ปี 2 เดือน ซึ่งเป็นลูกสาว เสียชีวิตปริศนาตามร่างกายมีบาดแผล หลังอยู่กับ นายฤทธิพร การพงศศรี อายุ 21 ปี (พ่อเลี้ยง) และ นายวีรยุทธ(หรือนิค) สังขยารอ อายุ 16 ปี (พี่เลี้ยง)
ล่าสุดเมื่อช่วงสาย วันที่ 18 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายฤทธิพร การพงศศรี อายุ 21 ปี (พ่อเลี้ยง) ผู้ต้องหา ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ส่งศาลอาญาจังหวัดสมุทรปราการ เป็นฝากแรกเวลา 12 วัน กำหนดโทษ จำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 15 ปี ในระหว่างที่กำลังคุมตัวขึ้นรถไปศาล ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณกว่า 10 คน คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของ นางสาวเเพรวา โล่เพชร อายุ 19 ปี (แม่ของน้องโฟกัส) เข้ามารุมทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบคุมตัวขึ้นรถไปส่งศาล ส่วนทางด้าน นายวีรยุทธ สังขยารอ อายุ 16 ปี (พี่เลี้ยง) เจ้าหน้าที่อัยการ และ เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ จะเชิญตัวไปสอบอีกครั้ง ขณะที่ทางด้าน นางสาวเเพรวา โล่เพชร อายุ 19 ปี แม่น้องโฟกัส ได้เดินทางไปแจ้งทำใบมรณะบัตรของน้องโฟกัส ที่เทศบาลเมืองลัดหลวง
นางสาวเเพรวา โล่เพชร อายุ 19 ปี แม่น้องโฟกัส บอกว่า วันนี้หนูก็มาทำใบมรณะบัตรของน้อง ตอนนี้หนูก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ได้แต่ทำหน้าที่สุดท้ายของหนู โดยวันนี้ช่วงเย็น จะนำร่างน้องไปฝั่ง จะเผาร่างน้อง ที่วัดกลางพระประแดง ตอนนี้หนูก็ยังไม่เชื่อคำให้การใครทั้งนั้น ส่วนคำให้การหนูก็จะฟังหูไว้หู ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งหนูว่าทางพ่อเลี้ยงตอนนี้ก็น่าจะส่งศาลไปแล้วหนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่พี่เลี้ยง เขาบอกว่าถ้าเกิดหนูต้องการแจ้งจับเขาจริง ๆ ต้องไปคุยกับอัยการ อันนี้หนูก็ไม่รู้เรื่องตำรวจเขาเหมือนกัน หนูก็ปล่อยให้เขาคุยกันเอง หนูก็จะดำเนินคดีจนถึงที่สุดของหนู เพื่อลูกหนูคนเดียว ต่อให้เป็นแฟนหรือใครก็ชั่ง หนูไม่ได้เอาใครมาเป็นที่หนึ่งมากกว่าลูกหนูอยู่แล้ว หนูก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะหนูก็ต้องทำหน้าที่สุดท้ายของหนู ต่อให้ถ้าหนูยอมไปลูกหนูก็ไม่ฟื้นขึ้นมา หนูก็จะทำให้ถึงที่สุด ถ้าถามว่าทำไมหนูไม่ดูลูก ลูกหนูเป็นอย่างนี้ทำไมหนูถึงยังไว้ใจอยู่ หนูก็อยากจะบอกว่าหนูทำงาน หนูเข้างานก็ดึกแล้ว หนูเลิกงานมาก็สายแล้ว หนูจะเอาเวลาไหนไปดูลูก ถ้าหนูไม่จ้างเขาดู นางสาวเเพรวา โล่เพชร ยังบอกอีกว่า ลูกหนูเขาติดพูด แม่นิกตีหนู โดยน้องโฟกัสพูดแบบนี้ทั้งวัน แล้วจะไม่ให้หนูคิดได้อย่างไรว่าไม่ใช่พี่เลี้ยง บางทีน้องก็พูดว่าแม่ดูป๊าสิป๊าทำหนูอีกแล้ว หนูก็ไม่ได้เข้าข้างใคร ส่วนความคิดที่ว่าพี่เลี้ยงและพ่อเลี้ยงเด็กร่วมมือกันหรือไม่นั้นก็อาจจะเป็นไปได้ เมื่อเช้าหนูก็มาแล้วถามน้องนิคหรือพี่เลี้ยงไปว่ามึงเห็นมันทำทำไมมึงไม่ห้าม พี่เลี้ยงบอกว่าถ้าผมห้ามผมก็โดนด้วย มึงโดนด้วยมึงก็ยังสู้ได้ ลูกหนู 2 ขวบมันจะช่วยอะไรได้ โดยส่วนตัวมองว่าพี่เลี้ยงและพ่อเลี้ยงสนิทกันเนื่องจากเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อยากให้น้องกลับมาเกิดอีกครั้ง และแม่ขอโทษด้วยที่ดูแลหนูได้แค่นี้ ถ้าลูกยังอยู่ในวันนี้ลูกหนูน่าจะเตรียมเข้าโรงเรียนแล้ว
นายวีรยุทธ(หรือนิค) สังขยารอ อายุ 16 ปี (พี่เลี้ยง) บอกว่า ผมรู้จักกันตั้งแต่เด็ก เพราะอยู่ซอยบ้านเดียวกัน เขาให้ผมเลี้ยงน้องให้เนื่องจากไม่มีคนเลี้ยง ผมเคยใช้มือตีน้อง ส่วนไม้เคยใช้แค่ขู่น้องเฉย ๆ ผมเคยเห็นพ่อเลี้ยงทำร้ายน้องเกือบทุกวัน วันที่เกิดเหตุพ่อเลี้ยงตีน้องรุนแรงมาก จนน้องเขาไม่ไหว เขาก็ให้ผมอุ้มน้องมานอนกับผม แล้วตรงที่เขาบอกว่าผมทุ้มตัวน้องอันนี้ไม่จริง เพราะผมอุ้มน้องมาด้วยความที่บ้านเป็นบ้านไม้ แล้วมีเสียงดังปึ้งเขาก็คิดว่าผมทุ้มน้อง แต่จริงแล้วผมไม่ได้ทุ้ม ผมไม่ได้ทำร้ายน้องเลย น้องนอนไปได้สักพักก็อ้วกออกมา
นายฤทธิพร การพงศศรี อายุ 21 ปี อยากจะบอกว่าตนเองรักลูก และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำร้ายลูกแต่เป็นพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงทำร้ายน้องได้ยินเสียงดังแอ๊ก จากนั้นตนเองจึงลุกขึ้นไปดู จึงเห็นว่าลูกอ้วกและหยุดหายใจตนเองจึงเอาลูกไปเข้าห้องน้ำ โดยล้างตัวลูกปกติ โดยตนเองยอมรับว่าตีลูกโดยใช้สายยาง ในห้องน้ำเพียงเบาๆ และจากนั้นก็เตะเพียงเบาๆ ที่ทำเพราะรักบอกลูกแล้วว่าเป็นการสั่งสอน ไม่ได้ตีเพราะความโมโห ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าเคยตีลูกแต่ไม่ได้ใช้ความรุนแรง อยากบอกว่ารักลูกมากรักเหมือนลูกแท้ๆ ภรรยาของตนเองก็รักและไม่โกรธ ซึ่งตนรักทั้งคู่ สุดท้ายนี้ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำให้น้องเสียชีวิต และยืนยันว่าผู้ที่ทำให้น้องเสียชีวิตคือ นิค พี่เลี้ยงที่อายุ 16 ปี โดยไม่รู้ว่าทำอย่างไรเพราะเรานอนห่างกัน ที่นอนเพราะต้องรีบตื่นไปรับเมีย และในคืนนั้นตนเองไม่ได้เมา