สุพรรณบุรี-สารวัตรทางหลวงนำกำลังสกัดจับสาวใหญ่ตีเนียนขนแรงงานต่างด้าว

สุพรรณบุรี-สารวัตรทางหลวงนำกำลังสกัดจับสาวใหญ่ตีเนียนขนแรงงานต่างด้าว

ภาพ/ข่าว:ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี

          ที่จังหวัดสุพรรณบุรี พันตำรวจตรี โจ เสาร์ประโคน สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ศรีประจันต์ ทางหลวง สาลี ทางหลวงด่านช้าง และทางหลวงอู่ทอง สกัดจับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวได้ผู้ต้องหา 13 คนเป็นชาวเมียนมาร์ 10 คนเด็กเล็ก 2 ยึดรถกระบะ 1 คัน
          พันตำรวจตรี โจ เสาร์ประโคน สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากสาบลับว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยใช้รถยนต์ จำนวน 3คัน คันแรกเป็นรถสำรวจเส้นทาง คันที่ 2 และเป็นรถที่ขนแรงงานต่างด้าว หลังได้รับแจ้งจึงระดมกำลังตำรวจทางหลวง และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี วางกำลังตามจุด และพบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีบรอนซ์ ทะเบียน 2 ขภ 3016 กรุงเทพมหานคร ตามที่ได้รับแจ้งจึงใช้รถสายตรวจทางหลวงติดตามประกบถึงบริเวณสากแยกไฟแดง บ้านนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จึงส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในรถพบผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่จำนวน 8 คนนั่งเบียดเสียดกันอยู่ที่เบาะหลังและที่เบาะหน้าซ้ายเป็นหญิง 2 คนอุ้มเด็กเล็กอายุประมาณ 2 ขวบ 2 คนส่วนคนขับเป็นหญิงทราบชื่อ นางสาวนรินทร์พร พรประจักษ์ หรือไหม อายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 7 ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.เดิมบางนางบวช
          จากการสอบสวนนางสาวนรินทร์พร พรประจักษ์ หรือไหม ให้การรับสารภาพว่าขนแรงงานต่างด้าวมาจากอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เพื่อจะมาส่งในเขตพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้รับค่าจ้างขนต่างด้าวจำนวน 15,000 บาท ตนเพิ่งจะทำเป็นครั้งแรกเนื่องจากตนเดือดร้อนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องการหาเงินไปเลี้ยงครอบครัวซึ่งมีพ่อ แม่ ลูกวัย 12 ขวบและหลาน เดิมตนประกอบอาชีพทำไร่ รายได้ไม่พอบังเอิญไปเจอกับพม่าคนหนึ่ง เป็นคนติดต่อรับงานมาให้ตนจึงตัดสินใจทำ โดยคนที่ติดต่อบอกให้พาต่างด้าวทั้งหมด 12 คนผู้ใหญ่เป็นชาย 6 ผู้หญิง 4 คนรวม 10 เด็กเล็ก 2 คนเป็นชาย 1คนหญิง1 คนไปส่งในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ให้ขับมาตามถนนสาย 340 ชัยนาท – สุพรรณบุรี ตามจีพีเอส ถ้าเห็นกระสอบวางอยู่ข้างทางก็ให้จอด แล้วจะมีคนมารับช่วงต่อ แต่ระหว่างที่ตนขับเข้ามาในพื้นที่ยังไม่เจอกระสอบแต่เจอตำรวจเลยถูกจับ
           พันตำรวจตรี โจ เสาร์ประโคน สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กล่าวว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่ารับจ้างขนต่างด้าวมาจากอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก มาด้วยกันทั้งหมด 3 คัน คันแรกเป็นรถสำรวจเส้นทาง ว่ามีตรวจตั้งด่านหรือไม่ ส่วนคันที่ 2 และ 3 จะบรรทุกต่างด้าว โดยจะทิ้งระยะห่างกันประมาณ 1-2 กิโลเมตรเพื่อป้องกันหากคันหน้าถูกจับส่วนที่เหลือจะได้หนีทัน ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เราสามารถจับกุมไว้ได้ 1 คันส่วนที่เหลือไหวตัวหลบหนีไปได้ ซึ่งขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจะรู้เส้นทางหลบหลีกรู้ว่าทางไหนที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งค่านำพาต่างด้าวตามคำให้การของผู้ต้องหาตนคิดว่ามันน้อยมาก ตามที่ผู้ต้องหาให้การเบื้องต้นทั้งหมดตนยังไม่ปักใจเชื่อต้องสอบสวนขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์ ให้กวดขับจับกุมอย่างเข้มงวดและจริงจังสำหรับผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้หญิงก็จะอาศัยความเป็นผู้หญิงเข้าไปพูดจาออดอ้อนเจ้าหน้าที่หากเจอด่านตรวจ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นแต่เจ้าหน้าที่ไม่หลงกล จึงถูกจับดังกล่าว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานางสาวนรินทร์พร พรประจักษ์ คนขับในข้อหานำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยผิดกฎหมาย ส่วนแรงงานต่างด้าวก็ถูกแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังจากสอบสวนผ็ต้องหาทั้งหมดเสร็จก็จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!