กาญจนบุรี-หอบหลักฐานร้องสื่อช่วย!! หน่วยงานท้องถิ่นปรับปรุงเส้นทางน้ำลำภาชี ส่งผลกระทบ ปชช.อาศัยอยู่แนวตลิ่ง 2 ข้างลำน้ำ
ภาพ/ข่าว:รักษพล พุ่มพฤกษ์
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า คุณทวีศักดิ์ มุสิกนิลพันธ์ อดีตนายทหารเกษียณวัย 83 ปี คุณศักดิ์พัฒน์ มุสิกนิลพันธ์ อายุ 37 ปี บุตรชาย พร้อมตัวแทนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนว น้ำลำภาชี ตำบลกลอนโด หมู่ที่ 5 , ตำบลจระเข้เผือก หมู่ที่ 1 และ อำเภอด่านมะขามเตี้ย หมู่ที่ 3 จังหวัดกาญจนบุรี ได้หอบเอกสารการสอบที่ได้เคยทำการถามไปยัง อบต.ทั้ง 2 แห่ง ที่ได้เป็นผู้จัดสรรงบประมาณ ให้บริษัทผู้รับเหมาเร่งปรับปรุง 2 ฝั่งของตลิ่ง ลำภาชี รวมถึงอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ผลสรุปว่าเรื่องได้เงียบหาย ดังนั้นจึงได้หอบเอกสารทั้งหมดที่เคยร้องเรียน สอบถามการดำเนินการปรับปรุง น้ำลำภาชี มาแสดงแก่สื่อมวลชนเป็นจำนวนมากพร้อมภาพถ่ายตั่งแต่อดีต ที่ยังไม่ได้มีการปรับปรุง แน่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวเต็มพื้นที่ 2 ริมฝั่ง น้ำลำภาชี แต่ปัจจุบันภาพดังกล่าวได้หาย เหลือเพียงกองทรายขนาดใหญ่กองอยู่เต็ม 2 ฝั่ง ของลำน้ำภาชี และน้ำลำภาชีในอดีตกว้างใหญ่ แต่ปัจจุบันมีความเล็กลงไปกว่าเดิมมาก หากเกิดมีน้ำไหลลงมา จะเพียงพอแก่การรับน้ำที่ไหลหรือไม่ ชาวบ้านตั้งข้อสงสัย รวมถึงกองทรายเหล่านี้จะทำอย่างไรต่อไป
โดยกลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนได้นำพาสื่อลงยังพื้นที่เพื่อดูจุดบริเวณก่อสร้าง พบว่าผู้รับเหมาได้นำเครื่องจักรขนาดใหญ่พร้อมด้วยคนงานที่กำลังทำงานอยู่ในพื้นที่ เรื่องนี้ชาวบ้านได้สอบถามไปยังท้องถิ่น ทั้ง 2 ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะอาจจะส่งผลกระทบความเดือดร้อน กับผู้ที่อาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ ของคุณ ทวีศักดิ์ มุสิกนิลพันธ์ อดีตนายทหาร วัย 83 ปี ซึ่งมีพื้นที่ขอสัมปทานการดูดทราย อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากงานที่ปรับปรุงได้มีการขุดเจาะเข้าไปใกล้พื้นที่ดินของตนเองมาก ดังนั้นทางคุณทวีศักดิ์ มุสิกนิลพันธ์ จึงได้นำรถบรรทุกพ่วงจำนวน 2 คัน ไปจอดปิดเส้นทางเพื่อไม่ให้เครื่องจักรของผู้รับเหมาผ่านเข้า – ออกได้ เพื่อขอให้ทุกฝ่ายมาร่วมเจรจา เพื่อวางมาตราการการป้องกัน เพื่อไม่ส่งผลกระทบกับตนเองที่ได้ขอสัมปทานถูกต้อง และชาวบ้านที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่ง น้ำลำภาชี
ส่วนทางคุณ พะเยาว์ ลิ้มรัตน์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย ได้เป็นตัวแทนชาวบ้าน ได้กล่าวว่า ชาวบ้านฝากมาว่าชาวบ้านเดือดร้อนในการปรับปรุงตลิ่ง เพราะการทำเกษตร ปกติใช้น้ำในลำภาชี แห่งนี้แต่เวลาเดือดร้อนมาก และก่อนจะมีการดำเนินการก็ไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์ ชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่ง