ปราจีนบุรี-ระวังภัย! ไล่ไม่ไปโขลงช้างป่าอ่างฤาไนแปดริ้ว

ปราจีนบุรี-ระวังภัย! ไล่ไม่ไปโขลงช้างป่าอ่างฤาไนแปดริ้ว

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ / ทองสุข สิงห์พิมพ์

          วันที่ 8 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าตำบลวังท่าช้าง และ อบต.กำนัน , ผู้ใหญ่บ้านได้เฝ้าระวังช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนจังหวัดฉะเชิงเทรา(ในพื้นที่ป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายของไทยในพื้นที่ป่ารอย5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) ที่อพยพข้ามฝั่ง บุกมาหากินไกลถึง ในพื้นที่ตำบลวังท่าช้างและตำบลเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กว่า 150 ตัว (บวก) ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนผลักดันกลับเขตป่าอนุรักษ์ฯอย่างต่อเนื่องทุกครั้ง แม้ล่าสุด สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 1 (ปราจีนบุรี) และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) สนธิกำลังกว่า 200 นาย ร่วมกับ อบต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และเครือข่ายต่าง ๆ รวม 250 นาย ผลักดันช้างจำนวน 150 ตัว ให้กลับเข้าป่าเขาอ่างฤๅไน ปรากฏว่าเมื่อผลักดันช้างกลับเข้าป่าแล้ว ช้างพยายามออกจากป่าอีก โดยได้ปรับเปลี่ยนการอพยพโยกย้ายถิ่นข้ามฝั่งเข้ามาหากินแนวใหม่ ไม่รวมเป็นโขลงใหญ่ให้คนแตกตื่นเหมือนเดิม ได้แบ่งกระจายโขลงใหญ่ เป็นกลุ่มเล็กๆ หลายกลุ่ม และย้อนหวนข้ามฟากกลับเข้ามาหากินในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีกันอีก เพียงช่วงข้ามคืน
          เมื่อช่วงสายของวันที่ 8 ม.ค.67 พบโขลงช้างป่าจำนวน 4 ตัว ซึ่งมีตัวขนาดใหญ่หากินอยู่ในป่าอ้อย ที่หมู่บ้านคลองบุญเลิศ ม.16 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี โดยมีชาวบ้านติดตามมาดูช้างป่าซึ่งเข้ามาหากินในพื้นที่การเกษตร ทุกวัน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง เพราะมีช้างป่าเข้ามาหากินอยู่ในพื้นที่ และได้รับข่าวสารจากชุดเฝ้าระวังว่าพบเห็นช้างอยู่ละแวกใกล้เคียงบ้านเรือน จึงต้องพากันออกมาเฝ้าระวังและคอยผลักดันออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทุกค่ำคืน ขณะที่เจ้าหน้าที่ใช้โดรนบินสำรวจ พบมีโขลงช้างป่าตัวใหญ่ยังคงหากินอยู่ในป่าอ้อยจำนวน 4 ตัว ช้างป่ารู้ว่าทางเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังที่จะผลักดันออกจากพื้นที่ จากการเรียนรู้จึงหลบเข้าไปอยู่ในป่าอ้อย และหาทางที่จะหลบหนีชุดเฝ้าระวังไม่ให้ตามหาตัวได้เจอ เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวัง เพื่อรอเวลาที่จะผลักดันช้างป่า 4 ตัวออกจากพื้นที่ในช่วงบ่าย – ค่ำคืนของวันที่ 8 ม.ค.67 ซึ่งจะทำการผลักดันออกจากพื้นที่มุ่งหน้าไปยังบ้านวังกวาง มุ่งหน้าไปยังเขามะก่องผ่านบ้านวังใหม่วังมน เข้าพื้นที่ป่าเหมาะกระสอบซึ่งเป็นพื้นที่หากินเดิมของช้างป่าอ่างฤาไนต่อไป
          นายพิทักษ์ ใจอยู่ สมาชิกสภาอบต.หมู่ที่ 5 กล่าวว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อนุรักษ์และ ชุดอาสาสมัครเฝ้าระวัง-ผลักดันช้างป่า ตำบลเขาไม้แก้ว และตำบลวังท่าช้าง ร่วมกันผลักดันฝูงช้างป่า มาโดยตลอด แต่ช้างก็ยังคงแต่ฝูงหวนกลับเข้ามาหากินในพื้นที่อีก ชาวบ้านกลัวจนชินไปแล้วการแก้ไขปัญหาช้างป่ายากที่จะแก้ไขได้ ช้างป่าอ่างฤาไนฉลาดมากรู้ทางทางหนีทีไล่ของเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่พบเห็นช้างป่าแต่ละวัน 2 ฝูงอย่างน้อย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!