ประจวบคีรีขันธ์-ทีมสัตวแพทย์เข้าช่วยเหลือช้างป่าบาดเจ็บกลางป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
ภาพ-ข่าว:พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา
วันที่ 10 ม.ค.67 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่ออกลานตระเวน ได้พบความผิดปกติของช้างป่า เพศผู้ จำนวน 1 ตัว น้ำหนักประมาณ 3,000 กิโลกรัม อายุประมาณ 25-30 ปี ซึ่งช้างป่ามีอาการบวมและอักเสบอย่างรุนแรง บริเวณโคนหาง อวัยวะเพศ และพบดวงตาด้านซ้าย มีลักษณะเป็นฝาขาว ตรงจพบเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ดำเนินการดูแลช้างป่าอย่างใกล้ชิด ติดตามอาการ ให้ยาแก้ปวด ยาอักเสบ โดยใส่กล้วยน้ำว้า และขนุนให้กิน โดยให้นำเดินมายังบริเวณไกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี หมู่ที่ 9 บ้านย่านซื่อ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี เพื่อให้ง่ายต่อการติดตาม
โดยประสานสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และสัตวแพทย์ กลุ่มงานสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ดำเนินการวางแผนการรักษา ช้างป่าตัวดังกล่าว แต่ในช่วงเช้าของวันที่ 9 มกราคม 2566 ช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินออกนอกนอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตามหา และผลักดันกลับมายังสถานที่ที่เตรียมไว้เพื่อการรักษา จนกระทั่ง เวลา 16.00 น.ของวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ผลักดันกลับมาจนสำเร็จ ทีมสัตวแพทย์จึงได้ยิงยาซึมเพื่อทำการรักษา
โดยช้างดังกล่าวเป็นช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 20 ปี มีบาดแผลที่โคนหางและบริเวณอวัยวะเพศมีลักษณะเป็นแผลเปิดมีหนองไหลออกมาและมีกลิ่นเหม็น และทีมสัตวแพทย์สามารถเข้าปฏิบัติงานได้ เข้าเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อเช็คสุขภาพ ให้น้ำเกลือและยาปฏิชีวนะเข้าทางเส้นเลือดที่ใบหูรวมถึงให้กรดอะมิโนแอสิดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ช้างป่าที่บาดเจ็บ หลังจากนั้นฉีดยาปฏิชีวนะ ยาลดปวดและวิตามิน พร้อมกับทำแผลโดยทำการล้างบาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโพวิโดรไอโอดีนและน้ำเกลือล้างแผล
หลังจากที่ให้ยาช้างสามารถกลับตัวและขยับตัวได้ ขณะนี้ได้ใช้โดรนบินแบบเทอร์มอลเพื่อติดตามอาการช้างป่าอย่างใกล้ชิด และหลังจากนี้จะมีการให้ยาปฏิชีวนะและยาลดอักเสบแบบกินอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึงระยะเวลา 14 วัน และดูบาดแผลร่วมกับประเมินอาการสัตว์เป็นระยะ