สตูล-ลุงวัย 70 เปลี่ยนขยะเป็นสวนผักอินทรีย์ตกแต่งแทนไม้ประดับสวยงามขยายผลสู่ชุมชน

ภาพ/ข่าว:ชิดชนก พุดทอง

          อดีตผญบ.หลังเกษียณหันมาดูแลเรื่องขยะในครัวเรือน ใช้พื้นที่ว่างปรับเป็นสวนผักปลอดสารพิษ ตกแต่งผักแทนไม้ประดับสวยงามจนดึงดูดเพื่อนบ้านหันมาปลูกผักกินเอง จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกพื้นที่
          นายเหม กาสา อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ที่ 1 ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นผญบ. หลังเกษียณจึงมองว่าในพื้นที่ต.ควนขัน ปัญหาขยะในครัวเรือน นับวันยิ่งมีมากขึ้น จึงอยากรณรงค์เรื่องขยะโดยนำขยะมาใช้ประโยชน์ จึงนำขยะในครัวเรือนมาทำเป็นปุ๋ยและทำน้ำหมักโดยตั้งใจหากได้ผลก็จะขยายผลสู่เพื่อนบ้านเพื่อลดปัญหาขยะ ลดปัญหาโลกร้อน จนกระทั่งน้ำหมักได้ผลแต่ตนไม่มีตลาดในการจำหน่ายน้ำหมัก จึงคิดว่าหากเราปลูกผักกินเองจะลดเรื่องถุงพลาสติก ต่างๆได้จึงเริ่มต้นปลูกผัก โดยปลูกผักที่ตนกินเช่น ผักกาดขาวปลี ผักกวางตุ้ง พริก ผักบุ้ง กุยช่าย ขึ้นฉ่าย บวบงู หอม กระหล่ำปลี ผักหวาน ฯลฯ เริ่มเพาะต้นกล้าและเลือกต้นที่แข็งแรงลงปลูกในกระถาง กะละมัง ยางรถยนต์ ตระกร้า เข่ง อุปกรณ์ต่างๆที่สามารถใส่ต้นไม้ได้ และใช้น้ำหมักรดพืชผักที่ปลูก โดยจะเน้นประดับประดาผักที่ปลูกให้สวยงาม ซึ่งข้อดีของการปลูกในภาชนะต่างๆเป็นการป้องกันโรคและแมลงรบกวน รสชาติผักจะหวาน กรอบอร่อย ที่สำคัญปลอดสารเคมี เก็บกินได้เลย ตนทำเรื่องขยะมา 10 ปี แต่เริ่มปลูกผักมา 3 ปี การปลูกผักของตนไม่ได้ทำเชิงพานิชย์ เน้นปลูกกินเอง แต่ก็มีลูกค้ามาซื้อถึงสวน เช่นผักกาดขาวปลี ก.ก.ละ 50 บาท มีรายได้ทุกวัน ตนต้องการเป็นแบบอย่างให้เพื่อนบ้านเพื่อลดขยะในครัวเรือน หากรณรงค์ขยะในครัวเรือนเพื่อนบ้านจะมองไม่เห็น แต่เมื่อเรานำสิ่งที่ได้จากขยะเช่นน้ำหมัก มาใช้ในการปลูกผักสามารถมองเห็นและที่สำคัญลดรายจ่ายในครัวเรือน ลดขยะ มีความสุข สุขภาพดี และมีรายได้เพราะผักปลอดสารพิษเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ตนมองว่าหากปลูกไม้ดอก ได้ความสุขทางใจแต่กินไม่ได้ แต่หากเราปลูกผักสามารถนำมาตกแต่งบ้านให้สวยงามได้ด้วยผัก ซึ่งหลายคนที่มาดูในสวนผักตนแล้วขอน้ำหมักไปปลูกผักเองที่บ้าน ซึ่งการปลูกผักเองตนก็มองว่าลดการใช้ถุงพลาสติกแล้ว
          ทุกวันนี้สวนผักของตนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ ศึกษาดูงานของนักเรียน เยาวชนในพื้นที่ ส่วนต่างจังหวัดก็มีกลุ่มต่างๆเช่น ตรัง สงขลา พัทลุง สุราษฎร์ธานี มาศึกษาดูงานเป็นพื้นที่ต้นแบบกินอาหารเป็นยา และถือเป็นความมั่นคงทางอาหารที่ตนอยากให้คนทั่วไปได้รับรู้และเริ่มปลูกผักกินเอง แม้นไม่มีที่ก็สามารถปลูกใส่กระถาง หรือภาชนะที่มีวางหน้าบ้าน ข้างบ้านตกแต่งให้สวยงามแทนไม้ประดับได้ สวยและกินได้แถมมีความสุข สุขภาพดีตามมาด้วยรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืน เพราะผักปลอดสารพิษกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด