“สรรเพชญ”ทวงสัญญา“เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท”แนะ ! รัฐบาล ควรพูดความจริงกับประชาชน
ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับ “ความคืบหน้าการดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเลตของรัฐบาล” ว่า ควรรีบดำเนินการเสียที ภายหลังรับฟังข้อเสนอแนะของหน่วยงานต่าง ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะ กฤษฎีกา และ ป.ป.ช. เพราะประชาชนต่างเฝ้ารอที่จะได้รับเงินดิจิทัลดังกล่าว และตนก็เห็นว่า หากรัฐบาลศึกษาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ผลดี ผลเสีย ผลกระทบ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านแล้ว ก็ควรดำเนินนโยบายดังกล่าวโดยไม่ชักช้า
“ผมในฐานะที่ตรวจสอบและติดตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาตั้งแต่ต้น ก็อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเสียที ภายหลังได้รับฟังความเห็นของกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. ซึ่งทั้งสองหน่วยงานก็ไม่ได้ขัดขวางรัฐบาล ในการดำเนินนโยบายแต่ประการใด และหากท่านได้คิด และตกผลึกอย่างรอบด้านแล้ว ก็ไม่ควรชักช้า เพราะประชาชนต่างเฝ้ารออยู่ อย่างน้อยมันเป็นนโยบายที่ท่านหาเสียงไว้ รัฐบาลเพื่อไทย ท่านต้องสานต่อนโยบายนี้ให้เป็นจริง ทั้งยังเป็นนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาด้วย ท่านยิ่งหลีกหนี้ไม่พ้น ผู้นำรัฐบาลหลายท่าน ได้ออกมาบอกว่า เหตุผลทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ขั้นตอนการดำเนินการ เรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งผมเห็นว่า หากรัฐบาลมั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดมันถูกต้อง มันชอบด้วยกฎหมายแล้ว ท่านก็ควรดำเนินการโดยด่วน ไม่ใช่ปล่อยให้เลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนดอย่างที่เป็นอยู่”
นายสรรเพชญ ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาอธิบายเพื่อตอกย้ำให้เห็นว่า ไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ ดังนั้น หากรัฐบาลเชื่อว่า ทุกวันนี้มันเป็นวิกฤติเศรษฐกิจจริง ๆ รัฐบาล ยิ่งต้องรีบดำเนินนโยบายนี้โดยทันที เพื่อระงับความเสียหายทางเศรษฐกิจอันอาจจะเกิดขึ้น และไม่จำเป็นต้องกู้เงินโดยตราเป็นร่างพระราชบัญญัติเพื่อให้สภาฯ อนุมัติ แต่รัฐบาลสามารถกู้เงินโดยตราเป็นร่างพระราชกำหนดทดแทนได้ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน หากปล่อยไปอาจสร้างผลกระทบในวงกว้าง
ทั้งนี้ นายสรรเพชญ ยังตั้งข้อสงสัยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามจะสื่อสารกับสังคมว่า ปัจจุบันเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องมีมาตรการไปพยุงระบบเศรษฐกิจ และหนึ่งในมาตรการ คือ “ดิจิทัลวอลเลต” แต่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ สังคมไทยก็ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะดำเนินอะไรอย่างเป็นรูปธรรม รัฐบาลกำลังนิ่งเฉยต่อวิกฤติที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดีในตอนท้าย นายสรรเพชญ ได้กล่าวถึงการที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาอธิบายเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า “เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณหมอพรหมินทร์ ท่านได้ออกมาอธิบายว่า ปัจจุบันไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเลตจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ผมฟังแล้วก็สงสัยขึ้นมาทันที ในเมื่อมันเป็นวิกฤติแล้ว ทำไมรัฐบาลถึงปล่อยเวลามาเนิ่นนานขนาดนี้ ป่านนี้ ท่านต้องกู้เงินโดยตราเป็นพระราชกำหนดประกาศใช้แล้วครับ ประชาชนคงได้ใช้จ่ายเงินดิจิทัลนั้นไปแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาเขียนเป็นร่างพระราชบัญญัติให้สภาฯ อนุมัติหรอกครับ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งฟังความเห็นของกฤษฎีกา หรือ ของ ป.ป.ช. หรอกครับ ถ้ามันคือวิกฤติเศรษฐกิจจริง ๆ แต่สิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ เหมือนท่านนิ่งเฉย ท่านไม่ใส่ใจ ท่านออกมาเลื่อนมาผลัดการแจกเงินดิจิทัลกันรายวัน รายอาทิตย์ เสมือนท่านกำลังเล่นตลกบนความหวังของประชาชน”