สิงห์บุรี-พช. เดินหน้าประชุมขับเคลื่อนขจัดความยากจนและพัฒนาคนอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ภาพ/ข่าว:จิระแมน ขำฉ่า
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายณัฏฐ์กร ศิริผ่องแผ้ว นายอำเภอเมืองสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการบูรณาการกลไกการขับเคลื่อนการขจัดความยากจน ระดับอำเภอ พร้อมด้วยนางสาวสาวิตรี อุดมพันธ์ พัฒนาการอำเภอเมืองสิงห์บุรี คณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.อ.) อำเภอเมืองสิงห์บุรี ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียนสิงห์บุรี, ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองสิงห์บุรี, ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองสิงห์บุรี, เครือข่ายโคก หนอง นา อำเภอเมืองสิงห์บุรี, เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตอำเภอเมืองสิงห์บุรี, กองทุนแม่ของแผ่นดิน ระดับอำเภอ, ประธานกองทุนหมู่บ้าน อำเภอเมืองสิงห์บุรี เครือข่าย OTOP อำเภอเมืองสิงห์บุรี และผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาสิงห์บุรี ร่วมประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองสิงห์บุรี ชั้น 2 อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
นายณัฏฐ์กร ศิริผ่องแผ้ว นายอำเภอเมืองสิงห์บุรี กล่าวว่า “ ในวันนี้ เป็นการดีที่คณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อำเภอเมืองสิงห์บุรี (ศจพ.อ.) และภาคีเครือข่าย รวมจำนวนทั้งสิ้น 40 คน ได้มาประชุมร่วมกัน เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำและการพัฒนาคนทุกช่วงวัย เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาที่เกี่ยวข้องอย่างบูรณาการเป็นรูปธรรมและยั่งยืน และขอให้บูรณาการดำเนินงานขจัดความยากจนฯ ในพื้นที่ โดยใช้ กลไก 3-5-7 คือ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับชุมชนหรือลุ่มน้ำ ระดับจังหวัดหรือภูมิภาค และระดับชาติ ภายใต้การมีส่วนร่วมของ 5 กลไก ช่วยหนุนเสริมการขับเคลื่อนงาน ได้แก่ กลไกการประสานงานภาคีเครือข่าย กลไกแผนงานและยุทธศาสตร์เชิงบูรณาการ กลไกการติดตามและประเมินผล กลไกการจัดการความรู้ และกลไกการสื่อสารสังคมให้รับรู้ ร่วมด้วย การบูรณาการของ 7 ภาคี คือ ภาครัฐที่ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ กฎหมาย รวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ภาควิชาการและสถาบันการศึกษา ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน รวมไปถึงการส่งเสริมให้ครัวเรือนยากจน ปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ลดปัญหาความอดอยาก และฟื้นฟูให้ครัวเรือนอยู่เย็นเป็นสุข เพื่อนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ซึ่งพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ในการพัฒนาชุมชน มีโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ในพื้นที่ ด้วยการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” ให้ก่อเกิดรายได้ ส่งเสริมให้ครัวเรือนเป้าหมายได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามแนวทางวิถีชีวิตภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ และหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ หรือ “อารยะเกษตร” รวมทั้งการน้อมนำพระราชดำริเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร “โครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” มาเสริมให้เต็มทุกครัวเรือน ให้เราได้เห็นภาพผักสวนครัวที่ชัดเจน ที่อุดมสมบูรณ์มากขึ้น รวมไปถึงการนำพื้นที่สาธารณะมาใช้สร้างความมั่นคงด้านอาหารตามพระราชดำริ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” และการรณรงค์ส่งเสริมให้คนรักโลกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติมาทำเป็นสิ่งที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ทำให้น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก บนพื้นฐานปัจจัย 4 “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่
นางสาวสาวิตรี อุดมพันธ์ พัฒนาการอำเภอเมืองสิงห์บุรี ได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และทบทวนกลไกการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยในทุกระดับ รวมไปถึงนำเสนอผลการดำเนินการขจัดความยากจนฯ ปี 2566 ที่ผ่านมาให้คณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อำเภอเมืองสิงห์บุรี (ศจพ.อ.) ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายรับทราบ พร้อมทั้งร่วมกันบูรณาการวางแผนการปฏิบัติงานในการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน