ประจวบคีรีขันธ์-ยับทั้งคัน!รถกระบะบรรทุกต้นไม้เสียหลักตกร่องกลางถนนชนเสาไฟฟ้า…รถพังยับคนขับสาหัส..!!

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

                 เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 19 ก.พ.67 ร.ต.อ.หญิง รัตนาภรณ์ ทองจีน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะตกร่องกลางถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบริเวณถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 303+400 หน้าโรงเรียนบ้านบึง หมู่ 16 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯนำอุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่าง และ หน่วยกู้ชีพ รพ.ประจวบฯ เข้าให้ความช่วยเหลือ แล้วพร้อมด้วย ด.ต.จักรพงษ์ อินทนพ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองประจวบฯ เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงประจวบฯ ตำรวจทางหลวง รุดตรวจสอบ
                 ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนเดียว มีลูกกรงสำหรับบรรทุก ยี่ห้อ Isuzu สีม่วง หมายเลขทะเบียน บพ 9438 ชุมพร พลิกตะแคงข้างเทกระจาดอยู่ในร่องกลางถนน สิ่งของที่บรรทุกมาเป็นจำพวกไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ กระถางต้นไม้ หญ้าแผ่น และอุปกรณ์ต้นไม้สำหรับประดับสวน หล่นกระจัดกระจายเกลื่อนทั่วพื้นถนนบริเวณจุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบมีรอยครูดไถลไปกับพื้นขอบถนนระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร สภาพรถได้รับความเสียหายทั้งคัน กันชนหน้ายุบ กระจกแตก หัวเก๋งฉีกขาด ชิ้นส่วนรถหล่นกระจัดกระจายเกลื่อน มีผู้ขับขี่เป็นชายยังไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บติดคาภายในอยู่บริเวณหน้ารถ อาการสาหัส มีแผลฉีกขาดฉกรรจ์บริเวณศีรษะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้อุปกรณ์เครื่องมือตัด-ถ่าง ตัดซากรถนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
                จากการตรวจสอบเบื้องต้นสันนิษฐานว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้เดินทางมุ่งหน้าลงใต้ เพื่อนำสินค้าที่บรรทุกมาไปส่งให้กับร้านที่จำหน่ายต้นไม้ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุคาดว่าอาจวูบหลับในทำให้รถเสียหลักตกไหลถนนบริเวณร่องกลาง แล้วครูดไถลยาวประมาณ 100 เมตร ก่อนไปชนกับตอม่อเสาไฟส่องสว่างทางจนหักโค่น ก่อนพลิกคว่ำเทกระจาดอยู่ในร่องกลางถนนดังกล่าว อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจะสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
                  นายสรชัย สายสกล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านบึง เปิดเผยว่า ตนเองเป็นชาวบ้านในพื้นที่อาศัยอยู่ตั้งแต่เล็กจนโต ถนนเพชรเกษมบริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน ส่วนหนึ่งอาจเกิดมาจากความอาถรรพ์ตามความเชื่อของชาวพุทธ อีกส่วนหนึ่งน่าจะเกี่ยวกับวินัยในการขับรถของผู้ขับขี่ ซึ่งตนเองเห็นด้วยว่าควรมีพิธีทำบุญเชิญวิญญาณให้กับผู้เสียชีวิต บริเวณนี้เพื่อให้ชาวบ้านสบายใจในเรื่องของตัวตายตัวแทน แต่สำหรับหมู่บ้านแห่งนี้ได้ทำพิธีปีละ 1 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น และต่อมาได้เปลี่ยนย้ายยูเทิร์นจากจุดเดิมไปยังจุดอื่นก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุลดลงบ้าง แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุขึ้นอยู่เรื่อยๆ และชาวบ้านที่ใช้ถนนสายนี้ชอบขับขี่ย้อนศรเป็นประจำอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง