สตูล-ชาวบ้านร้องอดีตเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ธกส. หลอกลวงเงินลูกค้าธนาคาร วอนทุกภาคส่วนช่วยเหลือ

ภาพ/ข่าว:ชิดชนก พุดทอง

          นายสมศักดิ์ วิเชียรคู่ อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูลพร้อมพวกกว่า 30 คนรวมตัวกันข้างธกส.สาขาควนกาหลง ม.10 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ .สตูล เพื่อยื่นหนังสือถึงประธานกรรมาธิการการเงินการคลังสถาบันการเงินและตลาดการเงิน ผ่านนายพิบูลย์ รัชกิจประการ รองประธานกรรมาธิการการเงินการคลังฯและส.ส.จ.สตูลเขต 1 และยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมแก่ผวจ.จ.สตูลผ่านนายธนพัฒน์ เด่นบูรณะ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจ.สตูล เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีดังกล่าว
          ทั้งนี้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนถูกนายณัฐภริภาส แก้วมณี หรือเปี๊ยก ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อธกส.สาขาอ.ควนกาหลง มีพฤติกรรมหลอกลวง ต้มตุ๋น ฉ้อโกงบรรดาสมาชิกลูกค้าของทางธนาคาร ซึ่งที่แสดงตัวตนแล้ว 24 รายมูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท โดยอาศัยความเป็นเจ้าหน้าที่สร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้า และให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆซึ่งไม่มีพนักงานคนอื่นทำได้ ต่อมาได้หลอกลวงลูกค้าหลายรูปแบบ โดยใช้กลไกลในระบบของธนาคารมาเป็นเครื่องมือ เช่นพูดจาหว่านล้อมว่าตัวเองกำลังเดือดร้อน ให้ทางผู้เสียหายทำการกู้ยืมเงินจากทางระบบของธนาคารแล้วเอามาให้ตนเองโดยมีการตั้งบัตรประจำตัวของทางธนาคารและบัตรประจำตัวประชาชนไว้เป็นหลักฐาน ในบางรายได้ทำหนังสือในการกู้ยืมเงินไว้ให้เพื่อใช้อ้างอิงกับผู้เสียหายหากตนเองเป็นอะไรผู้เสียหายสามารถนำมายื่นกับธนาคารได้เพราะตนทำประกันชีวิตไว้แล้ว โดยนายเปี๊ยก ได้ช่วยเหลือกับสมาชิกทุกรายที่ตกเป็นเหยื่อ บางรายให้กู้เกินวงเงิน บางรายเป็นหนี้เสียก็สามารถกู้ได้เต็มวงเงิน ลูกค้าจึงมองว่านายเปี๊ยกสามารถช่วยเหลือทำเรื่องกู้ได้ทั้งหมดจึงมีความสนิทสนม เพราะพนักงานคนอื่นทำไม่ได้ จึงมีผู้ถูกหลอกและเสียทรัพย์ในหลายรูปแบบ และเรื่องทุกอย่างได้เปิดเผยขึ้นมาเมื่อเดือนม.ค.66 เพราะผู้เสียหายได้ทยอยแจ้งเรื่องนี้กับทางธนาคาร และทางธนาคารได้เรียกผู้เสียหายมาสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมได้พักงานและต่อมาได้มีการไล่ออกในเดือนส.ค.66 กลุ่มผู้เสียหายได้รวบรวมรายชื่อทำหนังสือขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้ทางธนาคารหยุดพักทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยที่เกิดจากพนักงานของธนาคารผู้นี้ทำขึ้นไว้ก่อนจนกว่าจะสรุปเรื่องให้แล้วเสร็จ โดยทางธนาคารได้ให้ความหวังว่าจะหาทางเยียวยาผู้เสียหายให้ แต่เรื่องเงียบหายไป ผู้เสียหายทั้งหมดต้องแบกรับปัญหาเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ สร้างความเสียหายอย่างมาก จึงอยากให้ทางธกส.ออกมารับผิดชอบกรณีดังกล่าวเพราะในขณะนั้นนายเปี๊ยกเป็นพนักงานของธนาคาร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ไม่ใช่แค่ลาออกจากพนักงาน ขอให้ทางธนาคารหรือผู้มีอำนาจในเรื่องนี้ขอให้หยุดพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยจนกว่าจะสรุปเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ขอให้ธนาคารดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อให้นายเปี๊ยกได้รับโทษทางกฎหมายและชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย ขอให้ทางธกส.ควบคุมการทำงานของพนักงานจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกค้ารายอื่นๆ อยากให้ทางรัฐบาลเข้ามาดูแลเยียวยากลุ่มผู้เสียหายโดยเร็วเพราะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ผัวเมียแตกแยก เกิดปัญหาครอบครัว สภาพจิตใจย่ำแย่ และบางรายเกิดภาวะหนี้สินนอกระบบ โดยทางส.ส.จ.สตูล รับหนังสือไว้แล้วบอกว่ารู้สึกเห็นใจกับผู้เสียหายและจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายทั้งชาวบ้านและทางธกส. โดยจะทำหนังสือหารือกับสนง.ใหญ่ให้ตรวจสอบอยากให้ทางธกส.เองเห็นใจชาวบ้านด้วย
          ด้านนางเสริม รัตนพันธุ์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านม.9 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง กล่าวว่า ตนเป็นลูกค้าธกส.ซึ่งเป็นลูกค้าหนี้เสียที่ไม่สามารถกู้เงินได้ แต่นายเปี๊ยกก็สามารถทำเรื่องให้กู้เงินได้ โดยนายเปี๊ยกได้โทรมาหาตนแล้วบอกว่าให้มาเซ็นต์เอกสาร ซึ่งเอกสารเยอะมากตนก็อ่านไม่หมด ต่อมาไม่นานก็โทรมาหาอีกครั้งบอกว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว โดยเข้ามา 2 งวดคือ5 แสนและ2 แสน ซึ่งเงินก้อนนั้นนายเปี๊ยกก็ขอยืมไปหมดโดยบอกว่าจะให้คืนภายใน 2 เดือนเพราะตนเองกำลังจะขึ้นเป็นผู้จัดการ ต่อมาก็ผลัดไปเรื่อยๆที่ตนเชื่อใจเพราะดูจากสถานะของนายเปี๊ยกเองก็เป็นคนที่มีฐานะดีบ้านใหญ่โต กำลังเลื่อนขั้นเป็นผจก.พี่น้องก็มีฐานะ จึงหลงเชื่อ ผ่านมา 4 เดือนจึงรู้ว่าถูกหลอกเพราะไม่ใช่ตนคนเดียว แต่มีเพื่อนอีกหลายคนที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน น้องสาวตนเป็นผู้พิการทั้งสามีและภรรยา ก็ถูกโกงไป 2 แสนโดยทำเรื่องกู้2แสนนายเปี๊ยกสามารถช่วยให้ทำได้ จึงหลงเชื่อแต่ปรากฏว่ายอดที่กู้ไปกลายเป็น 4 แสนนายเปี๊ยกบอกเขียนผิดให้โอนเงินที่เกินไปคืนมาให้ตน ชาวบ้านก็ไม่รู้เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินต้นเงินดอกปรากฏว่ากลายเป็นกู้ 4 แสนเหมือนเดิม ทั้งที่เป็นคนพิการ เมื่อตามหานายเปี๊ยกก็หายสาบสูญไปแล้ว ของตน 7 แสนไม่ได้ใช้สักบาทแถมเป็นหนี้อีกต่างหาก บางคนถูกหลอกเป็นล้าน ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำก็ทุกข์หนัก
          ขณะที่ คุณเจติยา ทองศรี ผอ.ธกส.จ.สตูล กล่าวว่าตอนนี้อันไหนที่พื้นที่ช่วยเหลือได้ก็จะให้การช่วยเหลือ และช่วยเหลือไปบ้างแล้วไม่ว่าจะเรื่องขยายระยะเวลาลดดอกเบี้ยให้การดูแลทั่วถึงครบหมดแล้วทางและธกส.สตูลเก็บรายละเอียดข้อเรียกร้องของชาวบ้านในวันดังกล่าวนี้ส่งไปส่วนกลางเพื่อเข้าขบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งมีหลายมุมมองมีรายละเอียดเยอะมากธกส.เองไม่ได้นิ่งนอนใจโดยจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องมากที่สุดอาจจะต้องใช้เวลา สำหรับอดีตพนักงานคนดังกล่าวได้มีการไล่ออกไปตั้งแต่เดือนส.ค.66 แล้ว