นครปฐม-“พ่อกะเทย แม่ทอม เรื่องจริงที่ต้องเข้าใจ” ธรรมมะดีๆจาก”หลวงพี่น้ำฝน”
เรื่องโดย:พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน)
บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกคน แม้ว่าในทางกฎหมายและทางชีววิทยา เพศจะมีเพียงชายและหญิง แต่ในความเป็นจริงแล้ว โลกของเพศมีความหลากหลายสูงมาก มีคำเรียกแบ่งประเภทมากมายเพื่อระบุตัวตนว่าฉันคือใคร ตั้งแต่ ตุ๊ด ทอม เกย์ ดี้ เลสเบี้ยน และอีกมากมาย มีเพศวิถีที่หลากหลาย ตั้งแต่ชายรักชาย หญิงรักหญิง หรือว่าได้ทั้งคู่ ซึ่งคนเหล่านี้สมัยก่อนจะถูกมองว่าเบี่ยงเบน วิปริต ลักเพศ บางบ้านนี่ถ้าลูกหลานเป็นเป็นอันว่าบ้านแตกแน่นอน แต่ปัจจุบันสังคมพัฒนาขึ้น ก็มีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ ไม่ได้มองว่าเป็นความวิปริตผิดเพศอีกต่อไป คนเหล่านี้ควรจะมีสิทธิและได้รับการยอมรับโดยสมบูรณ์
ในทางพุทธศาสนาเอง แม้บางสภาพจะบวชไม่ได้ เช่น บัณเฑาะก์ประเภทที่มีเครื่องเพศสองเพศ แต่ก็เพื่อความเรียบร้อยในหมู่สงฆ์ ไม่ได้หมายความว่าธรรมะแห่งพุทธศาสนาจะปิดกั้นด้วยความรังเกียจ ไม่ได้เป็นพระก็จริงแต่ก็ยังสามารถเข้าถึงพระธรรมได้ จะบรรลุมรรคผลอะไรก็ได้ทั้งนั้น ในสมัยพุทธกาลก็มีผู้คนหลากหลายเข้ามาในพระศาสนา ตั้งแต่มหาราชา เศรษฐี คนเข็ญใจ หรือแม้กระทั่งนางโสเภณี ได้มรรคผลกันไปตามกำลังที่ทำ เชื่อว่าในสมัยนั้นก็น่าจะมีกลุ่มคนหลากหลายทางเพศเข้ามายังร่มพระธรรมด้วย แต่อาจจะไม่ถูกบันทึกไว้ก็เป็นไปได้
พระสงฆ์เองก็ต้องมีความเข้าใจ จะมองด้วยความรังเกียจหรือผิดปกติก็ไม่ควร ศิษยานุศิษย์ของอาตมาเองก็มีหลากหลาย เฉพาะเรื่องเพศสภาพนี้ก็มีหลากหลาย อาตมาก็มิได้รังเกียจอะไร ทุกคนเสมอกัน นั่นทำให้อาตมาต้องไปข้องเกี่ยวกับปัญหาที่บางครั้งก็ฟังดูแปลก แต่จริง เป็นเรื่องแปลกแต่จริง คนสองคน มีลูกด้วยกัน แต่ฝ่ายพ่อเป็นกะเทย ฝ่ายแม่เป็นทอม
กะเทยก็หมายถึง กำเนิดเป็นชาย ใจเป็นหญิง แต่งตัวมีรูปลักษณ์อย่างหญิง บางคนก็ตัดแล้ว บางคนไม่ได้ตัด อย่างหลังนี่คือ อุปกรณ์ก็ยังใช้ได้ มีครบทุกอย่าง แค่ต้องเก็บดี ๆ ทอมก็หมายถึง กำเนิดเป็นหญิง ใจเป็นชาย แต่งตัวมีรูปลักษณ์อย่างชาย สมัยนี้หมอเขามีวิธีผ่าตัดต่อของผู้ชายขึ้นมา แต่กระบวนการก็ดูจะยุ่งยากกว่าการตัดออก คนที่ยังมีของเดิม ก็ยังใช้การได้ เพราะทุกอย่างข้างในยังอยู่ครบ ทีนี้ คนสองคนที่ว่า อกหักมาด้วยกัน เจอกันเลยสปาร์กกัน สุดท้ายได้ลูกขึ้นมา กลายเป็นว่าคนพ่อเป็นกะเทย คนแม่ที่ตั้งท้องเป็นทอม เอาล่ะสิทีนี้ ทั้งคู่ก็เริ่มคิดแล้วว่า ถ้าลูกโตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร พ่อสวย แม่หล่อ พ่อกะเทยแม่ทอม จะอธิบายแก่ลูกอย่างไรดี เพราะลูกก็คงจะต้องสงสัย ทำไมพ่อหนูไม่เหมือนพ่อคนอื่น ทำไมแม่หนูไม่เหมือนคนอื่น อาตมาก็เห็นว่า นั่นแหละ ต้องอธิบายให้เข้าใจ และให้เกิดความยอมรับ เข้าใจ ภูมิใจ และถือว่าดีแล้ว เป็นบุญแล้วที่ได้รับความรักความห่วงใยอย่างเต็มที่จากพ่อและแม่ ไม่ว่าพ่อแม่จะอยู่ในสภาพแบบไหน
ความรักของคนเป็นพ่อ และคนเป็นแม่ เป็นความรักอันบริสุทธิ์ที่ก้าวข้ามไปแล้วว่าพ่อจะเป็นอย่างไร แม่จะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่ไม่มีเพศ เป็นความบริสุทธิ์โดยแท้ จึงไม่จำเป็นเลยว่าพ่อจะต้องเป็นอย่างไร แม่จะเป็นอย่างไร พ่อเป็นกะเทยแล้วไง แม่เป็นทอมแล้วไง เขาให้ความรักแก่ลูกของตนได้ เขามีความรักต่อลูกของตน ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว ยังดีกว่าพ่อแม่ชายจริงหญิงแท้บางคนที่พูดร้ายทำร้ายลูกของตนได้ลงคอเสียอีก
หน้าที่ของเราคือ อธิบายแก่ลูกให้เข้าใจว่าความจริงคืออะไร และไม่มีสิ่งใดที่บกพร่องเลย ความเป็นกะเทย ความเป็นทอม ไม่ได้ทำให้ความรักต่อลูกมันเสียหรือเปลี่ยนสภาพไป โตขึ้นลูกอาจจะโดนหัวเราะเยาะจากคนที่ไม่เข้าใจ แต่ลูกจะผ่านพ้นสิ่งเหล่านี้ไปได้ด้วยความเข้าใจอย่างมั่นคงแนบแน่น ว่าอะไรเป็นอะไร ลูกก็จะเข้าใจพ่อแม่ และปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
เมื่อไม่กี่เดือนก่อนมีละครที่เรื่องราวคล้าย ๆ กันนี่แหละ คือ พ่อเป็นกะเทย เป็นเรื่องที่ให้แง่คิดดีว่าความรักของพ่อมันไม่จำกัดรูปแบบว่าคนเป็นพ่อต้องเป็นอย่างไร พ่อกะเทยก็รักลูกได้ ลูกก็ยอมรับเข้าใจพ่อที่เป็นกะเทยได้ คนรอบข้างก็เข้าใจ ไม่ต้องมาบุลลี่อะไรกัน ทุกอย่างจบสวย มันเป็นไปได้ ฉะนั้น ทุกอย่าง สำคัญที่ความเข้าใจ…ขอเจริญพร