ยิ่งกว่าลิงแก้แห..โค้วโต๊ะหมงบอกว่า “ยุ่งตายห่า” แจกเงินดิจิทัล1 0,000 บาท เดิมจะดึงเงิน ธกส.แต่ส่อเค้าเกิดแรงต้าน หันไปมองเงินประกันสังคม
ภาพ-ข่าว:นายหัวไทร
ให้เลขาฯกฤษฎีกาออกมาแก้แทนว่า ไม่เคยพูด ไม่เคยหารือในที่ประชุมว่าจะใช้เงินจาก ธกส. แค่พูดเรื่องการใช้ ม.28 ตาม พรบ.วินัยการเงินมาใช้ ส่วนเอาเงินจากไหนเป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง งงสิครับ วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา นั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตา นายกฯ /รมช.คลัง ปลัดคลัง ยืนยันแหล่งที่มาของเงิน 3 แนวทาง หนึ่งในสาม คือเงินจาก ธกส.1,752,000 ล้านบาท
การแถลงรายละเอียดหลักเกณฑ์ของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยหนึ่งในแหล่งเงินที่ใช้มาจากการยืมเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กว่า 1.7 แสนล้าน ปลัดกระทรวงการคลังยืนยันว่า ธ.ก.ส. มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการได้ และมีสภาพคล่องเพียงพอ ทว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ชี้ว่า นี่คือการ “ไต่เส้นตีความ” ที่อาจผิดวัตถุประสงค์การดำเนินงานของ ธ.ก.ส.
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลัง นำทีมเปิดแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยระบุหลักเกณฑ์และเงื่อนไข และที่มาของแหล่งเงินในการดำเนินโครงการวงเงิน 500,000 ล้านบาท ว่ามาจาก 3 ส่วน ได้แก่ ขยายกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 175,000 ล้านบาท การดำเนินการผ่านหน่วยงานรัฐ ซึ่งก็คือ ธ.ก.ส. วงเงิน 172,300 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะรับภาระใช้คืนงบประมาณในภายหลังบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 175,000 ล้านบาท (ส่วนหนึ่งมาจากงบกลาง)
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแหล่งที่มาของเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่มาเงินจาก ธ.ก.ส. วงเงิน 172,300 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรกว่า 17 ล้านคนเศษ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 มาตรา 28 ว่า มาจากในปีงบประมาณ 2568 พร้อมยืนยันว่า กระทรวงการคลังตรวจสอบแล้วว่า อำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส. สามารถทำได้ และสภาพคล่องมีเพียงพอ แต่ต้องรอให้งบประมาณปี 2568 ผ่านก่อน ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า การใช้เงินคืนให้กับ ธ.ก.ส. เป็นกระบวนการทางงบประมาณที่รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเพื่อใช้คืนธนาคารของรัฐเป็นระยะ ๆ ซึ่งเป็นไปตามความเหมาะสมของงบประมาณในแต่ละปี
เลขาฯกฤษฎีกาโยนว่า นักข่าวคิดไปเอง เขียนไปเอง ยิ่งงงกันไปใหญ่ก็คลิปมียืนยันได้อยู่ มันไม่นานเกินจะลืมนะ มีข่าวว่า ถ้าเดินหน้าใช้เงิน ธกส.อาจจะผิด พรบ.การจัดตั้ง ธกส./ผิดวัตถุประสงค์ จึงต้องหาทางออก หาทางแก้ไข เพื่อเดินหน้าโครงการแจกเงิน 10000 ดิจิทัล ต่อไป โดยรัฐบาลเล็งไปที่เงินก้อนสุดท้าย “กองทุนประกันสังคม 2 ล้านล้าน เพื่อไทยจึงต้องคิดแผนใหม่จะอาศัยการปรับครม. แลกโค้วต้ากับภูมิใจไทย โดยดึง“ไชยา พรหมมา” ที่ส่อว่าจะหลุดจาก รมช.เกษตรฯไปนั่งรมว.แรงงาน แทน “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ภายใต้เงื่อนไขว่า เพื่อหาช่องทางดึงเงินจากกองทุนประกันสังคมที่มีอยู่ 2,032,841 ล้านบาท มาใช้ตามโครงการแจกเงินหมื่น “ดิจิทัล วอลเล็ต”
ถามว่า บอร์ดประกันสังคม บอร์ดการลงทุนของกองทุนประกันสังคมจะยินยอมลงทุนให้รัฐบาลกู้ยืมหรือไม่ ซึ่งสำคัญต้องพิจารณาความเสี่ยง อย่าลืมว่าเงินกองทุนประกันสังคม คือเงินของผู้ใช้แรงงานที่สะสมไว้ใช้ในยามชราภาพ การให้รัฐบาลกู้ยืมมีความเสี่ยงหรือไม่ รัฐบาลของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ใช้เงินจาก ธกส.ตามโครงการจำนำข้าว ใช้เงินไป 900,000 กว่าล้านบาท รัฐบาล พล.อย่า.ประยุทธ จันทร์โอชา ต้องมาชดใช้แทนไปแล้ว 600,000 กว่าล้านบาท ยุงเหลือรัฐบาลค้างชำระ ธกส.อยู่อีก 200,000 กว่าล้านบาท
ประเด็นพิจารณา คือ ถ้ามองในมุมการเมือง บอร์ดประกันสังคมชุดปัจจุบันที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามา เกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้การสนับสนุนของพรรคส้ม และพรรคส้มส่งสัญญาณไม่เอาแจกเงินดิจิทัลมาโดยตลอด นี้คือประเด็นที่เพื่อไทยจะต้องตั้งสติขบคิด การที่รัฐบาลส่อว่าจะไปเอาเงินจากกองทุนประกันสังคมมาใช้ จะมีหลักประกันอย่างไรว่าจะได้คืน ได้คืนเมื่อไหร่ มีดอกเบี้ยตอบแทนกี่เปอร์เซ็นต์ ในวงเสวนาบางวงคุยกันถึงอนาคตของกองทุนประกันสังคม ในภาวะที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู้สังคมผู้สูงอายุ ต้องใช้เงินจำนวนมากในการจ่ายตามโครงการชราภาพ และในกระทรวงแรงงานเองก็มีข้อกังวลว่า ในอีก 15-20 ปีข้างหน้า กองทุนประกันสังคมอาจจะขาดสภาพคล่อง และกำลังหามาตรการรองรับกันอยู่ ประสิทธื์ กาญจนวัฒน์ (โคว้โต๊ะหมง) เคยกล่าวไว้ว่า “ยุ่งตายห่า” แล้วแจกเงินดิจิทัล มันจะยุ่งตายห่าไหม