ชลบุรี-ตร.หนองปรือ จับหนุ่มนักร้องผับดังพัทยา ขับเก๋งตระเวนลักทรัพย์ พบมีหมายจับค้างเก่า
ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดชลบุรี
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 พ.ค. พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชุมพล แสนวิชัย รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.ณธกร จันทร์ลอด สวป.ฯ และ ร.ต.อ.สุรชัย ช่วยคูณ รอง สวป.ฯ นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายปริญญา หรือบอส ศรีภิรมย์ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ที่บริเวณคูน้ำใต้สะพานต่างระดับโป่ง ถนนสาย 36 พัทยา-ระยอง หลังก่อเหตุทุบกระจกเข้าไปพยายามลักทรัพย์บ้านเรือนประชาชน สืบเนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ สภ.หนองปรือ รับแจ้งเหตุคนร้ายทุบกระจกพยายามเข้าไปลักทรัพย์ เหตุเกิดบ้านเลขที่ 44/17 ม.2 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้เสียหายเป็นข้าราชการเทศบาลตำบลโป่ง พาดูร่องรอยกระจกบานเลื่อนถูกทุบจนแตกเป็นเสี่ยงๆ โดยพบเพียงรถยนต์เก๋ง คัมรี่ สีดำ ของผู้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้บริเวณหน้าบ้านพักผู้เสียหาย ตรวจค้นพบเงินธนบัตรสกุลไทย และต่างประเทศจำนวนมาก ลำโพงบลูทูธ สีดำ 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายสีดำ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีก่อนตำรวจจะมาถึง ตำรวจจึงได้ประสานส่งข้อมูลให้กับผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.โป่ง ช่วยกันปิดล้อมตรวจค้นบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าผู้ก่อเหตุอาจจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล จนกระเวลาผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมง ตำรวจได้พบผู้ก่อเหตุยืนอยู่บริเวณใต้สะพานต่างระดับ ในลักษณะเดียวกับภาพกล้องวงจรปิดจับภาพใกล้กับจุดเกิดเหตุจับภาพไว้ได้ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ โดยเจ้าตัวก็รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง จึงควบคุมตัวมายังตู้ยามมิตรกมล เพื่อสอบสวนและจับกุม
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ก่อเหตุ มีหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยใช้ยานพาหนะ“ ลงวันที่ 9 เม.ย.67 ในเขตรับผิดชอบ สภ.หนองปรือ โดยผู้ก่อเหตุ อ้างว่า เคยทำงานเป็นนักร้องที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา โดยไม่รู้ว่ามีหมายจับมาก่อน ส่วนธนบัตรเงินสกุลต่างประเทศ ไม่ได้ขโมยมา ขอยืนยันว่าเป็นเงินที่ลูกค้าชาวต่างประเทศให้ค่าทิประหว่างขับรถรับจ้างส่งไปสนามบิน ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ขอให้การใดๆ จะขอไปให้ปากคำที่ศาลเท่านั้น และปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาที่ตำรวจแจ้ง
ขณะที่ ตำรวจได้ภาพวงจรปิดหลักฐาน ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้ขับรถเก๋ง สีดำ มาจอดบริเวณบ้านสร้างใหม่ ที่ไม่มีใครพักอาศัย ก่อนลงจากรถและเลื่อนเปิดประตูบ้าน แล้วถอยรถเข้าไปจอดเหมือนบ้านตัวเอง ซึ่งตำรวจเชื่อว่าน่าจะถอยรถเข้ามาจอดแอบ ก่อนจะลงมือก่อเหตุ โดยที่เจ้าตัวอ้างว่า ถอยเข้าบ้านเพื่อเข้าไปกลับรถ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ และมีหลักฐานเชื่อว่าน่าจะเอาผิดผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน เบื้องต้นจึงจับกุมตามหมายจับในคดีค้างเก่า ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.