สุพรรณบุรี-“วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร”แจกต้นไม้ถวายเป็นพุทธบูชาเวียนเทียนวันวิสาขบูชา
ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี
วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร แจกต้นไม้ ถวายเป็นพุทธบูชาเวียนเทียนวันวิสาขบูชา รำลึกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติที่ต้นสาละ ตรัสรู้ที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์และปรินิพพานที่ต้นสาละ พร้อมพิธีถวายผ้าห่มหลวงพ่อโต ทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา
ไปกันที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี จัดงานส่งเสริมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชา ประจำปี2567 ซึ่งได้รับการยกย่องจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกให้เป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันที่บังเกิดเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าและจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดได้เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน
โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าวัดทำบุญตักบาตรกันตั้งแต่เช้าพร้อมไหว้พระขอพรถวายผ้าห่มหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล ในส่วนภาคค่ำพระครูโสภณวีรานุวัตร ผศ ดร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร นำกล้าพันธุ์ไม้ แจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิกชน เพื่อร่วมเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา แทนการใช้ดอกไม้ เนื่องจากเวียนเทียนด้วยต้นไม้ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณของต้นไม้ที่มีต่อพระพุทธเจ้า ประสูติ ที่ใต้ต้นสาละ ตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และปรินิพพาน ใต้ต้นสาละคู่
วัดป่าเลไลยก์ จัดให้มีการเวียนเทียนด้วยต้นไม้ยืนต้นและต้นไม้กินลูก ประกอบด้วย 1. ต้นนางขวัก 2. กระทิง 3. พิกุล 4. สักทอง 5. เสม็ดแดง 6. มะค่าโมง 7. จันโอ 8. ชะมวง 9. พะยอม 10.ปีบ 11. มะกอกป่า 12. มะละกอ 13. แคขาว-แดง อีกทั้งยังช่วยลดภาวะโลกร้อน ส่วนกล้าพันธุ์ไม้ที่เวียนเทียน ชาวบ้านจะนำกลับไปปลูกที่บ้านหรือจะปลูกที่วัดก็ได้ ขณะที่ทั้งพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนมาเวียนเทียนกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตกลงมา ทำให้อากาศเย็นชุ่มฉ่ำ ซึ่งทุกคนได้ปรับตัวตามสถานการณ์ของโลก ต่างให้ความร่วมใจร่วมใจกันใช้ต้นไม้เวียน แทนการใช้ดอกไม้ หลังเวียนยังสามารถนำต้นไม้ไปปลูก เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย
โดยมีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการและประชาชน สวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนาและร่วมเวียนเทียนรอบพระวิหารหลวงพ่อโต เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญ 3 เหตุการณ์ ที่ถือได้ว่าเป็นวันคล้ายวันที่ “ประสูติ” ของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาได้ “ตรัสรู้” เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงกอปรไปด้วย “พระบริสุทธิคุณ” “พระปัญญาคุณ” ผู้ซึ่งได้ทรงสั่งสอนประกาศพระสัจธรรม คือ ความจริงของโลก แก่ชนทั้งปวงโดย “พระมหากรุณาธิคุณ” จวบจนทรง “เสด็จดับขันธปรินิพพาน” ในวาระสุดท้าย ทั้งสามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องในวันเพ็ญเดือน 6 นี้ทำให้พระพุทธศาสนาได้บังเกิดและสืบต่อมาอย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ”วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร” ควรเข้ากราบขอพรและร่วมพิธีถวายห่มผ้าหลวงพ่อโต ซึ่งหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี ขอพรได้ทุกเรื่อง หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า การสอบเข้ารับราชการ ขอให้ชีวิตและครอบครัวมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข ดวงตกหมดเคราะห์ร้ายทั้งหลาย วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ชาวสุพรรณบุรีและนักท่องเที่ยวสายมู มักมากราบไหว้ขอพร องค์หลวงพ่อโต หลวงพ่อดำหลังพระวิหาร ท้าวเวสสุวรรณ พญาเต่าหัวมังกรแล้ว ยังได้ทำบุญตักบาตรพระทางน้ำ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวสุพรรณบุรี
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่10 พ.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมายังวัดป่าเลไลยก์ วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสุพรรณบุรี โดยนมัสการหลวงพ่อโตพระประธานในพระอุโบสถ ก่อนห่มผ้า และนมัสการพระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค14 อายุ 90 ปี