อุทัยธานี-เปิดงานรณรงค์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ระดับเขต

อุทัยธานี-เปิดงานรณรงค์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ระดับเขต

ภาพ-ข่าว:วราภรณ์ จันทรังษ์

              ที่จังหวัดอุทัยธานี วันนี้ ( 6 มิ.ย. ) ที่ ศูนย์เรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา เกษตรทฤษฎีใหม่ เทศบาลตำบลทัพทัน และศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี นายเรืองพจน์ ธารานาถ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานรณรงค์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ระดับเขต ประจำปี 2567 โดยมี นางสาวศิริวรรณ กอเกษตรทรัพย์ นายอําเภอทัพทัน กล่าวต้อนรับ และ นายเสน่ห์ แสงคํา เกษตรจังหวัดอุทัยธานี กล่าวรายงาน พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ร่วมงานจำนวนมาก
              ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางด้านการขึ้นทะเบียนและปรับปรุง ทะเบียนเกษตรกรที่ถูกต้อง รวดเร็ว ทั่วถึง อีกทั้งเป็นการตระหนักรู้ถึงสิทธิ หน้าที่ และประโยชน์ที่จะได้รับจากการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เกษตรกรที่ประกอบอาชีพ ด้านการเกษตรแล้ว แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับสํานักงานเกษตรอําเภอ ได้รับทราบวิธีการ ช่องทางการ ขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว โดยเฉพาะช่องทางศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่สํานักงานเกษตรอําเภอทุกแห่ง ที่เกษตรกรสามารถนําเอกสารไปขึ้น ทะเบียนเกษตรกรและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบันได้

             โดยภายในงานมีการแถลงข่าวงานรณรงค์การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ระดับเขต ประจําปีงบประมาณ 2567 การจัดเวทีเสวนา ประเด็น ขึ้นทะเบียนเกษตรกร รักษาสิทธิ์ รับโอกาส และการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยส่วนราชการและตัวแทนเกษตรกร และการเปิดให้บริการของศูนย์บริการเกษตรพีรุณราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร จากหน่วยงานต่างๆ จากการรายงานข้อมูลพบว่า จังหวัดอุทัยธานี มีประชากร 323,860 คน 117,767 ครัวเรือน เป็นครัวเรือนเกษตรกร ที่ ขึ้นทะเบียนเกษตรกร จํานวน 40,548 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 34.43 ของครัวเรือนทั้งหมด โดยมีพื้นที่เกษตรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว 1,188,993.46 ไร่ พื้นที่เกษตรส่วนใหญ่มีการทํานาและปลูกพีชไร่เป็นหลัก ผลผลิตทางการเกษตรที่สําคัญของจังหวัด ได้แก่ ข้าว อ้อย มันสําปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสับปะรดโรงงาน
              โดยนายเสน่ห์ แสงคํา เกษตรจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดอุทัยธานี มีครัวเรือนเกษตรกรอยู่เป็นจํานวนมาก ซึ่งเราพบว่าขณะนี้ เมื่อเทียบระหว่างช่วงเดือนเดียวกันดับปีที่แล้ว มีเกษตรกรที่เดินทางมาขึ้นทะเบียนกันจำนวนมากขึ้น และคาดว่าจะมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมานั้น จังหวัดอุทัยธานีประสบกับสภาวะภัยแล้งที่ยาวนาน แต่ด้วยช่วงนี้เกษตรกรเริ่มที่จะสามารถลงแปรงปลูกพืชผลทางการเกษตรกันได้อีกครั้ง ประกอบกับเกษตรกรเริ่ม เริ่มตระตระหนักและลึงเห็นถึงผลสำคัญของการขึ้นทะเบียนเกษตรกรว่า เมื่อพื้นที่การเกษตรของตนเองนั้น ประสบภัยต่างๆจะสามารถได้รับการช่วยเหลือดูแลจากทางภาครัฐได้

             ด้าน นายเรืองพจน์ ธารานาถ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในปี 2567 กรมส่งเสริมการเกษตรเน้นการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทำการขึ้นทะเบียนและปรับ ปรุงทะเบียนเกษตรกร ซึ่งถือว่ามีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อทั้งตัวเกษตรกรเองอย่างยิ่งในการให้การดูแลและช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งปัญหาหลักๆที่เราพบกันอยู่ ณ ปัจจุบันนี้คือ ประชาชนยังให้ความสนใจการขึ้นทะเบียนเกษตรกรน้อย เพราะยังมีความเชื่อว่าจะถูกนำข้อมูลไปขึ้นทะเบียนการเสียภาษี จึงทำให้เกษตรกรกลุ่มนี้ เสียสิทธิในการที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ อย่างเช่น กรณีที่พี่น้องเกษตรกร ประสพภัยพิบัติ วาตภัย อุทกภัย อัคคีภัย ที่ได้รับความเสียหายต่างๆโดยสิ้นเชิง เมื่อไม่ได้ทำการขึ้นทะเบียนเกษตร ตรงส่วนนี้ทางภาครัฐก็จะไม่สามารถ ดำเนินการให้การช่วยเหลือได้
              นอกจากที่ภาครัฐจะสามารถให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวข้างต้นได้แล้วนั้น ยังสามารถนำข้อมูลไปวางแผนการทำการเกษตรฤดูกาลถัดไปแล้วนั้น เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนยังมีสิทธิเข้าถึงสวัสดิการด้านเกษตร ได้แก่ การช่วยเหลือภัยพิบัติด้านพืช การเข้าร่วมการประกันภัยพืชผลซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการหรือมาตรการนั้นๆ ตลอดจนการเข้าร่วมโครงการมาตรการภาครัฐอื่นๆ และการพัฒนาความรู้และทักษะด้านอาชีพ ส่วนภาครัฐก็สามารถนำข้อมูลไปวางแผนพัฒนาการเกษตร การจัดการด้านการผลิตและการตลาด การส่งเสริม และสนับสนุน การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรไทยทุกท่านที่ทำการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน แจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทุกครั้งที่มีการเพาะปลูก ไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ปลูกแล้ว 30 วันหากยังยืนต้น ให้แจ้งปรับปรุงข้อมูลทุกปีรอบการขึ้นทะเบียน ให้ตรงตามความเป็นจริงและปัจจุบัน เพื่อรักษาสิทธิ์และโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยสามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ณ สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือเกษตรกรดำเนินการด้วยตนเองทางระบบออนไลน์ ผ่านระบบ e-Form ที่เว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th และแอปพลิเคชัน Farmbook

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!