ระยอง- รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อนเกาะเสม็ด
ภาพ-ข่าว:อัจฉรา วิเศษศรี
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อนเกาะเสม็ด จ.ระยอง หลังชาวบ้านบนเกาะเสม็ด ร้องให้แก้ไขพื้นที่ทับซ้อนที่ทำกินของชาวบ้านหลังปัญหายืดเยื้อมากว่า 20 ปี ขณะที่ชาวบ้าน ชมรัฐบาลลงพื้นที่แก้ไขปัญหารวดเร็ว
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง นายชลธิศ สุรัสวดี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่เกาะเสม็ด ม.4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินทับซ้อนระหว่างภาครัฐกับราษฎรในเกาะเสม็ด ซึ่งมีปัญหามานานกว่า 20 ปี โดยได้ตรวจสอบสภาพพื้นที่จริงที่มีข้อพิพาท ที่ยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนของแนวเขต ก่อนจะร่วมประชุมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปตามที่ราษฎรได้ยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรม ทบทวนปัญหาความไม่ชัดเจนของแนวเขต การชะลอบังคับคดี และการขอให้พื้นที่เช่าทุกแปลงมีทางเข้า-ออกสาธารณะ โดยมี น.ส.จันทร์จิรา สังข์สุวรรณ ผู้ร้อง และพี่น้อง ปชช. ร่วมรับฟังการชี้แจงฯ
นายสมคิด เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้อง ปชช. เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เกาะเสม็ด และประชุมร่วมฯ ได้ข้อสรุปคือ 1.การตรวจสอบพื้นที่แนวเขตที่ไม่ชัดเจน ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ดำเนินการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิตามหลักความเป็นธรรม โดยมีกรอบระยะเวลา 120 วัน เข้าสู่กระบวนการการจัดทำแผนที่บูรณาการ(One Map) 2.กรณีราษฎร ขอให้ชะลอการบังคับคดี และชำระค่าเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ที่ประชุมขอให้ สคทช. ดำเนินการตรวจสอบแนวเขตให้มีความชัดเจนภายใน 120 วัน กรณีถือเป็นเหตุอันควรที่ทำให้อุทยานฯ สามารถชะลอการดำเนินการออกไปก่อน พร้อมกันนี้ขอให้ราษฎรมีหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้มีหนังสือแจ้งไปยังกรมบังคับคดีให้ทราบด้วย และ 3.เรื่องทางเข้า-ออก ของที่ดินที่มีการจัดให้เช่านั้น พื้นที่ทุกแปลงที่จัดสรรให้เช่าได้กำหนดให้มีทางเข้า-ออก โดยจะการตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง
ทั้งนี้รัฐบาลมีความตั้งใจที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้อง ปชช. ที่ร้องเรียนผ่านมาทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 โดยมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินระหว่างหน่วยงานของรัฐกับราษฎรในครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบของกระบวนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
ด้านนายชลธิศ เปิดเผยว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาเกาะเสม็ด ได้มีการดำเนินการตั้งแต่คราวที่ตนเป็น หน.อุทยานฯ แห่งนี้แล้ว โดยมี คกก.แก้ไขปัญหาดำเนินการ เมื่อปี 2543 โดยมีพี่น้อง ปชช. ที่อยู่ด้านทิศตะวันออกของเกาะเสม็ด 49 ราย ได้ขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากกรมธนารักษ์ ซึ่งวันนี้ได้มีการมาพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะหัวเกาะเสม็ดด้านทิศเหนือที่มีข้อพิพาท ซึ่งพิจารณาแล้วว่าอาจจะเกิดจากความคลาดเคลื่อนในเชิงพื้นที่ ประกอบกับแนวคิดและการจัดการ จะใช้แนวคิดเฉกเช่นเดียวกันกับการจัดการปี 2543 -44 ซึ่งพี่น้อง ปชช. ที่ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2524 การประกาศเขตอุทยานฯ จนกระทั่งปี 2543-44 พี่น้อง ปชช. จะได้รับสิทธิแน่นอนอยู่แล้ว และมีการใช้ประโยชน์จนถึงปี 2547 ซึ่งจะมีการพิสูจน์สิทธิว่าอยู่หรือครอบครองหรือไม่ ซึ่งพี่น้อง ปชช. กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ได้รับอนุญาตให้เช่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเรื่องแนวเขต สคทช. จะเข้าไปดูพื้นที่บริเวณทิศเหนือของมีความคลาดเคลื่อนต่อไป ซึ่งสาระสำคัญการได้อยู่ในครั้งนี้ ก็ขอให้อยู่ในกรอบ และคำนึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด น้ำเสีย และขยะด้วย
ด้านนางจันทร์จิรา เปิดเผยว่า ตนในฐานะตัวแทนพี่น้อง ปชช. ที่เข้าไปร้องกับรัฐบาลผ่านทางหน่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องขอขอบคุณทางคณะของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ได้ดำเนินการตามข้อร้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้คลายความกังวลในเรื่องการถูกจับดำเนินคดี และการบังคับคดีไปได้อย่างมาก และก็ยังมีการดำเนินการต่อเนื่องพิสูจน์ว่าพี่น้อง ปชช. ปฏิบัติถูกกฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งการร้องเรียนก็อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่รัฐกำหนดให้อยู่ภายใต้กฎหมาย เพียงแต่มันมีความคลาดเคลื่อนของแผนที่ที่ไม่เข้าใจ และไม่ได้ทำความเข้าใจบอกกล่าวกันก่อน ซึ่งการดำเนินการที่เกิดขึ้นวันนี้ ต้องขอขอบคุณทางรัฐบาลจากใจจริง