ปราจีนบุรี-กรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบฝูงแมลงกัดกินใบมันสำปะหลัง

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ/ทองสุข สิงห์พิมพ์ 

            วันนี้ 15 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่พบฝูงแมลงปีกแข็งตัวสีเขียวไม่ทราบชนิดกัดกินใบมันสำปะหลังของนายไพบูลย์ ลาทองเกษตรกรหมู่ที่ 4 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเจ้าของไร่มันสำปะหลังได้ไปสำรวจไร่มันสำปะหลังเมื่อเช้าวานนี้ และได้สังเกตเห็นแมลงตัวสีเขียวปีกแข็ง พากันกัดกินใบมันสำปะหลังที่กำลังเจริญเติบโตเป็นจำนวนมากและไม่เคยเห็นมาก่อน ต้นมันสำปะหลังที่ถูกกัดกินใบมีหลายต้นที่เหลือแต่ก้านใบ หากไม่กำจัดฝูงแมลงดังกล่าวจะทำให้ต้นมันไม่โตและไม่มีหัวและยืนต้นตายในที่สุด จึงได้ประสานผู้สื่อข่าวฝากถึงเกษตรอำเภอเกษตรจังหวัด ให้คำแนะนำถึงวิธีการกำจัดศัตรูพืชโดยด่วนก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในระยะนี้
           วันนี้ ( 15 มิ.ย.67) น.ส.สุมมา สิมาสฤษฎ์ ผอ.กลุ่มพยากรณ์และเตือนการระบาดศัตรูพืชสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง และคณะฯสำนักงานเกษตรจังหวัดปราจีนบุรีเกษตรอำเภอกบินทร์บุรี ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแมลงที่พบเห็นในแปลงของเกษตรกร เบื้องต้นพบแมลงดังกล่าวมีชื่อด้วงกัดใบ อยู่ในไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรอยู่จำนวนหนึ่งไม่แน่ชัดว่า จะมีด้วงกัดใบมากน้อยเพียงใดและได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างด้วงกัดใบนำไปวิจัยที่สำนักงานด้วย ในเบื้องต้นได้แนะนำเกษตรกรให้รีบกำจัดหนอนกัดใบ
          หากพบว่ามีปริมาณไม่มากนักให้รีบกำจัดและทำลาย โดยเด็ดใบมันสำปะหลังที่มีตัวด้วงกัดใบเกาะอยู่ใส่ภาชนะไปเผาทำลาย หากวิธีนี้ไม่ได้ผลแนะนำเกษตรกรที่พบด้วงกัดใบให้ใช้ยากำจัดแมลงจำพวกคาร์บาริล85%wp สารกลุ่ม 1 a อัตรา 60กรัม/น้ำ20ลิตร พีโพรนิล 5%sc กลุ่ม 2 b อัตรา 80 มิลลิลิตร/น้ำ20ลิตรฉีดพ่น หากฉีดพ่นยากำจัดแมลงในเบื้องต้นได้ผลมากน้อยอย่างไร รีบประสานเจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอได้ตลอดเวลา ซึ่งทางเกษตรอำเภอและเกษตรตำบลสามารถติดต่อกับเกษตรกรได้โดยตรงอยู่แล้ว
           นายไพบูลย์ ลาทอง เกษตรกรชาวไร่มันกล่าวว่าขอบคุณกรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานเกษตรจังหวัดเกษตรอำเภอเกษตรตำบล และผู้นำท้องถิ่นท้องที่ที่ลงมาให้คำปรึกษาถึงไร่มันสำปะหลังในครั้งนี้ ในเบื้องต้นจะรีบดำเนินการซื้อยากำจัดแมลงมาฉีดพ่นเพื่อกำจัดไม่ให้หนอนกัดใบแพร่ระบาดในไร่มันของตนเองมากกว่านี้ รวมถึงอาจจะแพร่ระบาดในไร่มันของเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกันอีกด้วย