สุพรรณบุรี-นักท่องเที่ยวแห่กราบไหว้ขอพรพระพุทปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ

ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี/ธนกฤต แตงโสภา/ภัทรพล พรทพัก/นพดล แก้วเรือง/นิกร สิงห์พิมาตร์/ไพรัช ภมรพล/โสภณ สว่างศรี/ดนัยภพ สังข์สุวรรณ

 วันหยุดยาวนักท่องเที่ยวแห่กราบไหว้ขอพรชมความงามพระพุทปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ(มีคลิป)

            ที่บริเวณหน้าผามังกรบิน วัดเขาทำเทียม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ช่วงวันหยุดยาวหลายวันติดต่อกันทำให้มีพุทธศาสนิกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้ขอพรพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ(หลวงพ่ออู่ทอง) เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตตนเองและครอบครัว พร้อมชมความงดงามของพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินบนหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต่างชื่นชมความยิ่งใหญ่ และความสวยงาม ต่างถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกและนำไปโพสต์ในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก โดยหลวงพ่ออู่ทองนั้น อู่ทอง มีความสูง 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร หน้าตักกว้าง 65 เมตร อยู่ในพื้นที่ราว 100 ไร่ บริเวณหน้าผามีการเจาะช่องอุโมงค์หินเป็นถ้ำลึกประมาณ 20 เมตร

              ภายในอุโมงค์ประดิษฐานพระแม่ธรณีบีบมวยผม พระพุทธรูปศักดิ์ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้บูชา สามารถเดินลอดผ่านได้ อากาศเย็นสบายเพราะมีลมพัดผ่านเข้ามาตลอด มีทัศนียภาพรอบด้านที่สวยงาม มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่และศาลานั่งชมวิว หลวงพ่ออู่ทอง นั้นพระธรรมพุทธิมงคล (หลวงพ่อสอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.8) ที่ปรึกเจ้าคณะ จังหวัดสุพรรณบุรี มีดำริที่จะสถาปนาพระพุทธรูปแกะสลักภูผาใหญ่ที่สุดในโลก ณ ภูผามังกรบิน ในเขตโบราณสถานเมืองอู่ทอง สุพรรณบุรี ด้วยเหตุผลสอดคล้องทั้งในด้านพื้นที่ ที่กรมศิลปากรยืนยันว่า เมืองอู่ทองเป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ และหลักฐานทางโบราณคดีที่มีข้อพิสูจน์ว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย ส่งพระโสณะ และพระอุตตรเถระ เข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในต้นพุทธศตวรรษที่ 3 ดังหลักฐานจารึกศิลา ปุษยคีรี และธรรมจักรบนยอดเสาอโศก

                วัดเขาทำเทียม เป็นวัดที่เก่าแก่มาแต่โบราณ นักโบราณคดีหลายท่านสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดแห่งแรกในประเทศไทย หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพานได้ 300 ปี พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระ ได้ทำการสังคยนา ครั้งที่ 3 โดยมีพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นองค์อุปถัมภ์ ณ เมืองปาฏลีบุตร และได้ส่งสมณฑูตพระอรหันต์ปัญจวคคีย์ ได้แก่ พระสณะ พระมุนียเถระ พระฌานีเถระ พระภูริยเถระและพระอุตตรเถระ ออกเผยแพร่พระพุทธศาสนายังเมืองสุวรรณภูมิ และได้จารึกภาษาสันสกฤตโบราณไว้ว่า ปุษยคิริ หรือ ปุษยคีรี แปลว่า ภูเขา ดอกไม้ เนื่องจากบนภูเขามีดอกไม้ที่สวยงาม ประกอบด้วย ดอกสุพรรณิกา (สมอฝ้าย) ดอกงิ้วป่าสามสี เป็นที่น่าอัศจรรย์ ที่ชื่อปุษยคิริไปพ้องกันกับภูเขาปุษยคีรีสังฆาราม ในเมืองสาญจี รัฐโอริสสา
                เป็นที่น่าอัศจรรย์ ที่ชื่อปุษยคิริไปพ้องกันกับภูเขาปุษยคีรีสังฆาราม ในเมืองสาญจี รัฐโอริสสาวัดเขาทำเทียม มีชื่อเรียกหลายชื่อ วัดเขาธรรมเธียร วัดเขาคำเทียม วัดเขาถ้ำเทียมสวรรค์ วัดเขาทำเทียม ชื่อเขาธรรมเธียร แปลว่า ที่อยู่ของนักปราชญ์ผู้ฉลาดในธรรม และเขาคำเทียม ปรากฏในหนังสือรายงานตรวจราชการ ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเสนาบดี กระทรวงมหาดไทย วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ร.ศ.122 (พ.ศ.2446)และหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่าดินแดนแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดพระพุทธศาสนานั้นก็คือ จารึกหินขนาดกว้าง18ซม.ยาว33.3ซม.หน้า7ซม.แกะสลักอักษรปัลลวะหรือบางท่านเรียกว่าแบบปัลลวะกลาย อายุราวพุทธศตวรรษที่13-14 จากรึกนี้มีผู้อ่าน(ปริวรรต)คือ ปุษยคิริ แปลว่าปุษยคิริหรือเขาปุษยะ และเจดีย์หมายเลข12ยังค้นพบเสมาธรรมจักรที่สมบูรณ์ที่สุดสวยงามที่สุด ในปี พ.ศ 2519 และยังค้นพบแผ่นดินเผารูปพระสงฆ์อุ้มบาตรศิลปะอินเดียแบบอมราวดี พุทธศตวรรษที่ 9-10 หรือ มีอายุประมาณ 1,600-1,700 ปี พบที่เมืองโบราณอู่ทอง แผ่นดินเผาสีน้ำตาลเป็นภาพพระภิกษุสามองค์ยืนอุ้มบาตร ทรงครองจีวรห่มคลุม คือห่มจีวรคลุมทั้งสองบ่าถึงข้อมือ จีวรมีลักษณะเป็นริ้วชัดเจน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/